สวัสดีค่ะทุกคน
ชิฟูมิ มายด้า ผู้บริหารสาวชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชมบล็อก
“รีวิวจริงจากผู้บริหารสาวชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นะคะ
วันนี้ดิฉันจะมารีวิว Garrya Tongsai bay
รีสอร์ทระดับ 5 ดาวบนเกาะสมุยที่ดิฉันไปพักมาหลายรอบแล้วค่ะ
ซึ่งรอบนี้ก็น่าจะเป็นรอบที่ 6 ได้แล้ว
ตัวรีสอร์ทสามารถนั่งรถจากสนามบินสมุยมาได้โดยใช้เวลาแค่ประมาณ 15 นาทีเท่านั้นค่ะ
เรื่องราวเกี่ยวกับโรงแรม Garrya Tongsai Bay
The Tongsai bay เปิดกิจการในปี 1987
ในปี 1985 คุณอากร ฮุนตระกูล ผู้บริหาร Imperial Hotel Group ได้เห็นที่ดินตรงนี้ก็เกิดถูกใจขึ้นมาทันที
เขาลองมาใช้ชีวิตอยู่ริมหาดนี้เป็นเวลา 3 เดือนเพื่อหาไอเดียในการสร้างโรงแรมที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ
และสิ่งที่ได้ออกมาก็คือ The Tongsai Bay นี่ล่ะค่ะ
โดยมีแนวคิดที่อยากจะส่งต่อธรรมชาติอันแสนงดงามนี้ให้แก่คนรุ่นต่อไป
เพื่อให้อยู่ร่วมกับสัตว์และธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน
คุณอากร ฮุนตระกูลเสียชีวิตลงเมื่อปี 2000
แต่เจตจำนงนั้นยังคงสืบทอดสู่ลูกชายซึ่งเป็นผู้บริหารคนปัจจุบันสืบเนื่องต่อไป
ในปัจจุบันเกาะสมุยมีการก่อตั้งโรงแรมขึ้นมากมาย
ซึ่งรวมถึงโรงแรมที่มีชื่อเสียงจากการร่วมลงทุนของต่างชาติด้วย
เมื่อก่อนที่นี่เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ที่เงียบสงบและสามารถขี่มอเตอร์ไซด์รอบเกาะ
ได้ภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
The Tongsai Bay ได้ชื่อว่าเป็น “โรงแรม 5 ดาวแห่งแรกบนเกาะสมุย”
ตัวรีสอร์ทมีพื้นที่กว้างถึง 25 เอเคอร์ (ประมาณ 10,118 ตร.ม.)
และในพื้นที่กว้างขนาดนี้ก็มีห้อง Suite, Cottage
และ Villa รวมกันมากถึง 83 ห้องเลยทีเดียว
จุดเด่นของที่นี่คือทุกห้องสามารถมองเห็นวิวทะเลได้หมด
ที่ระเบียงจะมีอ่างอาบน้ำ สามารถแช่น้ำไปดูวิวทะเลไปพร้อมกันได้
ภายในบริเวณรีสอร์ทจะมีนกและแมลงหลากหลายชนิด ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สวยงามมากมาย
ตอนเดินจาก Villa ไปทานอาหารเช้า
รอบๆ ทางเดินจะเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีให้ความรู้สึกสดชื่นมากเลยค่ะ
ประสบการณ์ที่น่ารู้จัก: การพักอาศัยที่วิลล่า Nang Gong ที่ Garrya Tongsai Bay
ดิฉันชอบห้องแนวบ้านเดี่ยวอย่าง Cottage หรือ Villa มากกว่า Suite ที่จะอยู่ในตึกรวมกันหลายๆ ห้อง
ดิฉันเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้ว โดยพักที่ห้อง Seafront Cottages,
McGuigan Cottage, และ Hideaway Cottage ค่ะ
และในรอบนี้ดิฉันเลือกพักเป็นห้อง Nang Gong Villa ค่ะ
ด้วยความที่เคยมาหลายครั้งแล้วเลยสามารถอัปเกรดห้องได้
ทางรีสอร์ทจึงแนะนำให้อัปเกรดเป็นห้อง Akorn Villa ซึ่งเป็นชื่อของผู้ก่อตั้งรีสอร์ท
แต่ Akorn Villa มีถึง 2 ห้องนอน
แถมถ้าพูดถึงเรื่องวิวแล้ว Nang Gong Villa ที่อยู่ชั้นสูงกว่า
จะสามารถมองเห็นทัศนวิสัยได้กว้างกว่า
เลยเลือกเป็นห้อง Nang Gong Villa ตามที่แพลนไว้ตอนแรกค่ะ
พอเข้ามาในห้องแล้วสิ่งแรกที่เห็นคืออ่างอาบน้ำริมระเบียงและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
ตรงสุดทางจะมีศาลาเล็กๆ โต๊ะทานข้าว และเตียงอาบแดดด้วยค่ะ
และที่เคาน์เตอร์บาร์ ทาง The Tongsai Bay ได้เตรียมไวน์ขาวไว้ให้เป็นของขวัญด้วย
แถมบริเวณอ่างอาบน้ำยังมีตะกร้าดอกลีลาวดีเตรียมไว้ให้พร้อมสำหรับแช่ Floral Bath ด้วยนะคะ
ดิฉันชอบระเบียงแบบนี้มากจนแทบจะใช้เวลาทั้งวันอยู่แต่ในนี้เลยค่ะ
สามารถเรียกให้หมอนวดมานวดที่ระเบียงได้ด้วยนะคะ
นวดแบบได้รับลมธรรมชาติแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น
ฟังเสียงนกร้องเบาๆ พร้อมเสียงต้นไม้ปลิวไสวไปด้วย วิเศษสุดๆ ไปเลยค่ะ
ที่จริงช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021 ดิฉันก็จองห้องพักที่ The Tongsai bay ไว้
แต่ทางรีสอร์ทมีการปรับปรุงครั้งใหญ่เลยปิดทำการไประยะหนึ่ง
ตอนนั้นเลยเลือกไปพักที่ InterContinental Koh Samui แทนค่ะ
ห้อง Club Panoramic Ocean View Suite
ที่ดิฉันพักตอนไป InterContinental Koh Samui เองก็มีระเบียงกว้างแบบนี้เหมือนกัน
แต่ไม่มีหลังคา แถมตอนไปยังฝนตกอีก แทบไม่ได้นั่งเล่นตรงระเบียงเลย เสียดายมากๆ ค่ะ
แต่ที่ Garrya Tongsai bay มีหลังคาติดตั้งไว้เรียบร้อย
เลยสามารถนั่งชิลที่ระเบียงได้โดยไม่ต้องแคร์สภาพอากาศเลยค่ะ
สำหรับห้องนี้จะมีความกว้างอยู่ที่ 244 ตารางเมตร
อ่างอาบน้ำมีอยู่ 2 จุด คือด้านนอกที่มองเห็นวิวทะเลและในห้องอีกอ่างหนึ่งค่ะ
ภายในห้องจะแบ่งห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องน้ำออกเป็นสัดส่วน
แถมแต่ละห้องยังกว้างมากๆ ด้วย
สามารถดูวิวทะเลจากห้องนอนและห้องนั่งเล่นได้ด้วย
จุดเด่นที่สำคัญของ Nang Gong Villa คือมีสระว่ายน้ำตรงระเบียงถึง 2 สระด้วยกัน
แต่ละสระกว้างถึง 2.8m x 8.65m และ 2.5m x 4.74m เลยค่ะ
มองตรงไปก็จะเห็นวิวทะเลไกลสุดลูกหูลูกตา เห็นหาดเชิงมนและ Tongsai bay อยู่ไกลๆ ด้วย
ด้วยความที่ตัวห้องตั้งอยู่ค่อนข้างสูง แม้หาดส่วนตัวของโรงแรมจะคนเยอะวุ่นวาย
แต่ที่นี่จะไม่ได้ยินเสียงดังรบกวนเลยแม้แต่น้อย
เงียบสงบและสามารถสัมผัสถึงธรรมชาติที่งดงามได้แบบส่วนตัวจริงๆ
Nang Gong Villa จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เลยสามารถเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นได้ด้วย
ดิฉันตื่นแต่เช้าเพื่อมาว่ายน้ำและรับอากาศเย็นสบายยามเช้า
ชมพระอาทิตย์ยามเช้าและลงไปแช่อ่างอาบน้ำแบบชิลๆ
Nang Gong Villa เป็นสถานที่ที่อยู่แล้วสบายใจมากๆ
จนเหมือนเป็นการเที่ยวแบบขังตัวเองไว้ในห้องพักอย่างสมบูรณ์เลยค่ะ
คุณสมบัติที่โดดเด่นของวิลล่า Nang Gong ที่ Garrya Tongsai Bay
ตะลอนชิมอาหาร: รีวิวอาหารที่ Garrya Tongsai Bay
พวกเราค่อนข้างจุกจิกกับเรื่องอาหารการกิน
หรือพูดอีกอย่างคือถ้าอาหารไม่ถูกปากก็จะไม่ไปพักอีก
แต่สำหรับ Garrya Tongsai bay ที่มาแล้วมาอีก
ขอรับประกันเลยว่าอาหารที่นี่อร่อยมากจริงๆ ค่ะ
มื้อเช้าดิฉันไปทานที่ Rhoy! Rhoy! Restaurant ที่อยู่ข้างๆ ล็อบบี้
อันที่จริงมีบริการ Room Service ด้วยนะคะ
แต่ห้องพักมันดีเกินไปจนแทบจะกักตัวเองอยู่แต่ในห้องอยู่แล้ว
ตอนเช้าเลยเลือกออกมาทานที่ห้องอาหารเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง
ตอนที่พวกเราไปพักเป็นแบบเลือกสั่งอาหารจากเมนูที่ทางห้องอาหารกำหนดไว้ค่ะ
มีทั้งอาหารไทยและอาหารตะวันตก
ที่ The Tongsai bay มีสวนผักอยู่ด้วย พวกสมุนไพรและแยมบางชนิดจึงทำมาจากผลผลิตที่ปลูกเองภายในรีสอร์ท
ดิฉันชอบแยมมัลเบอร์รี่ของที่นี่ที่สุดเลยค่ะ
ส่วนมื้อกลางวัน ด้วยความที่อยากอยู่แต่ในห้องเลยเลือกสั่งเป็น Room Service มาค่ะ
มองลงไปก็จะเห็นวิวทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา เป็นมื้อกลางวันที่วิเศษมากค่ะ
เพราะมีหลังคากับพัดลม เลยไม่ร้อนเกินไปและทานอาหารได้อย่างสบายใจ
ช่วงกลางวันดิฉันจะนั่งทำงานหรือไม่ก็อ่านหนังสือไปเรื่อยค่ะ
พวกเรากินของเผ็ดไม่ค่อยได้ ปกติเลยจะไม่สั่งอาหารไทย
แต่ที่ The Tongsai bay จะทำอาหารให้ตามความต้องการของแขก
เราสองคนเลยได้ทานอาหารไทยแบบไม่เผ็ดแถมยังอร่อยมากอีกด้วยค่ะ
ส่วนมื้อเย็นเรามานั่งทานกันที่ Fish Tales Restaurant
ร้านนี้จะเสิร์ฟเฉพาะอาหารกลางวันและอาหารเย็นค่ะ
เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมหาด มีทั้งอาหารไทยและอาหารตะวันตก
พวกเราชอบช่วงเวลาพลบค่ำเป็นพิเศษ เลยชอบมาทานอาหารเย็นตั้งแต่ตอนที่ฟ้ายังสว่างอยู่ค่ะ
ดื่มไวน์ที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ และเพลิดเพลินไปกับวิวพระอาทิตย์ตกดินและฟ้าที่ค่อยๆ มืดลงไปตามเวลา
Nang Gong Villa เป็นห้องที่ตั้งอยู่ค่อนข้างสูง เลยมองลงไปเห็นวิวทะเลกว้างใหญ่
แต่ร้านอาหารนี้จะตั้งอยู่ริมหาดพอดีเลยได้ทานไปฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งไป
รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ
คืนวันศุกร์จะมีฉายหนังริมหาดด้วย ดิฉันมองว่าเหมือนได้เปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ น่าสนุกดีนะคะ
(ส่วนตัวดิฉันเข้านอนค่อนข้างไว เลยกลับ Villa มาก่อนแล้วค่ะ…)
การผ่อนคลายที่ไม่เหมือนใครที่ Elements Spa ใน Garrya Tongsai Bay
เราสองคนชอบนวดเป็นพิเศษอยู่แล้ว แน่นอนว่าครั้งนี้ก็ยอดเยี่ยมเช่นเคย
สามารถเรียกให้พนักงานมานวดหรือทำสปาที่ Villa ได้เช่นกันค่ะ
ที่ Prana Spa จะสามารถเข้ารับการนวดแผนไทยและนวดน้ำมันอโรม่าได้ในห้องเดียว
สำหรับการนวดแผนไทยจะใช้เตียงสำหรับนวดแผนไทยโดยเฉพาะ
ตัวห้องนับว่ากว้างมากทีเดียว ไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ
ภายในห้องนวดจะมีห้องน้ำ ฝักบัว และอ่างอาบน้ำเตรียมไว้ให้พร้อม
ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ทไหน แต่สปาจะให้บรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปตามสิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดไว้ให้
อยากให้ทุกคนได้มาลองเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าในแต่ละวันกันนะคะ
ความดีของการเข้าพักที่ Garrya Tongsai Bay: ข้อดีของ Garrya Tongsai Bay
สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนการเข้าพัก: ข้อเสียของ Garrya Tongsai Bay
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเที่ยวเกาะสมุย
แต่เกาะสมุยตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย ฤดูเลยจะไม่ค่อยตรงกับกรุงเทพฯ เท่าไร
หน้าแล้งของเกาะสมุยจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์-กันยายน (เดือนมีนาคม-เมษายนจะร้อนที่สุด)
ส่วนช่วงเดือนตุลาคม-มกราคมจะเป็นหน้าฝนค่ะ (เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมเป็นช่วงมรสุม เลยมีฝนตกเยอะมาก)
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะรู้กันว่าช่วง Best season ของเกาะสมุยจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์-กันยายน
โดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์จะมีฝนตกน้อยมาก แถมอากาศยังไม่ร้อนจนเกินไปด้วย
เลยเหมาะแก่การมาเที่ยวมากที่สุดค่ะ
แต่ช่วงที่มีนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศมาเยอะที่สุดดูเหมือนจะเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนค่ะ
ถึงจะเป็นหน้าฝนแต่ก็ใช่ว่าฝนจะตกทั้งวันนะคะ อาจจะมีฝนตกในช่วงเช้าหรือเย็นบ้างประปราย
แต่ถ้าเป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำฝนมากอย่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมก็อาจจะมีบางวันที่ตกต่อเนื่องติดกันทั้งวันเลยค่ะ
สำรวจเกาะสมุย: รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Garrya Tongsai Bay
84 หมู่ 5 ตำบลบ่อผุด เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84320 ประเทศไทย
Tel: +66 (0)77 913 750
Fax: +66 (0)77 425 462
Email : reservations-tongsaibay@garrya.com
URL:https://www.garrya.com/en/destinations/samui
กรุณาแสดงความคิดเห็นหากคุณชอบบทความนี้