Cagette Canteen & Deli – รีวิวร้านอาหารฝรั่งเศสที่อร่อยย่านสาทร!

Omakase ที่ Kappo Hisa: รีวิวร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรูที่สุขุมวิทซอย 20

สวัสดีค่ะทุกคน

ชิฟูมิ มายด้า ผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชมบล็อก

“รีวิวจริงจากผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นะคะ

วันนี้จะมารีวิวร้านอาหารญี่ปุ่น Kappo Hisa  

ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยทานมา

ทำให้กลับมารู้สึกอีกครั้งถึงความมีระดับของร้านอาหารญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ

จริงๆ เป็นร้านที่สนใจมานานแล้ว 

ด้านหน้าทางเข้าร้าน Kappo Hisa  ตั้งอยู่ที่ชั้น G ใน Mille Malle Mall  

ที่ญี่ปุ่น ถ้าได้ยินชื่อร้าน “Kappo”  จะรู้สึกได้เลยว่าเข้าถึงได้ยาก จองก็ยาก

แต่ถ้าเป็นที่กรุงเทพฯ จะน่าสนใจตรงที่คุณจะสามารถเข้าไปทานได้ง่ายกว่ามาก 

ร้านนี้ไม่กำหนดเครื่องแต่งกาย 

Contents

เรื่องราวและประวัติของ Kappo Hisa: จุดเริ่มต้นของร้าน Omakase ยอดนิยม

ร้าน Kappo Hisa ตั้งอยู่ที่ชั้น G ใน Mille Malle Mall สุขุมวิทซอย 20  

หากเข้า Mille Malle Mall จากสุขุมวิท ซอย 20  ร้าน Kappo Hisa จะอยู่ทางซ้ายมือทันที 

Kappo Hisa เปิดให้บริการในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนมิถุนายน 2560 โดยเชฟ Hisa จากจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น 

เป็นร้านที่มีเพจบน Facebook แต่หลักๆ ไม่ได้โฆษณา จะเป็นการบอกต่อความอร่อยจากปากต่อปาก 

เป็นร้านที่เป็นเคาน์เตอร์เพียง 8 ที่นั่งและต้องจองเท่านั้น 

 วัตถุดิบเป็นอาหารทะเลตามฤดูกาลที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น

และอาหารที่เสิร์ฟให้กับลูกค้าจะเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบและสภาพของวัตถุดิบในแต่ละวัน 

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ทอดยาวจากเหนือจรดใต้

ถึงแม้จะเป็น “ปลา” เหมือนกัน แต่ปลาที่จับได้กับรสชาติจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับฤดูกาลนั้นๆ  

Kappo Hisa (割烹ひさ)
เชฟฮิสะ จะปรุงหอยเม่นทะเลจากฮอกไกโดให้เห็นต่อหน้า

ร้าน Kappo Hisa สรรหาวัตถุดิบที่อร่อยที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ จากแหล่งกำเนิดโดยตรง 

มันน่าแปลกแต่ก็รู้สึกขอบคุณที่ได้ทานอาหารในประเทศไทยซึ่งใช้วัตถุดิบที่ไม่มีโอกาสได้ทานในญี่ปุ่น 

จะไม่มีเมนูหลักๆ แต่เมนูประจำวันจะเปลี่ยนไปตามแรงบันดาลใจของเชฟฮิสะ

อาหารแต่ละจานจะให้ความรู้สึกถึงความมุ่งมั่นและความภาคภูมิใจ

รวมถึงความเคารพของเชฟมืออาชีพฮิสะ  

รู้สึกหลงไหลไปกับอาหารสวยงามที่เผยโฉมให้เห็นต่อหน้าไปพร้อมๆ

กับชมงานฝีมือของช่างมืออาชีพ 

เล่ามาพอละ เริ่มหิวละ เข้าร้านอาหารกันเลยดีกว่า  

รีวิว Kappo Hisa: ประสบการณ์ Omakase ที่ไม่ควรพลาด

บรรยากาศและสถาปัตยกรรมของ Kappo Hisa

เมื่อเข้าประตูมา จะเห็นเคาน์เตอร์เรียงยาวตามสไตล์ของร้าน Kappo Hisa 

Kappo Hisa (割烹ひさ)

ร้านอาหาร Kappo ปกติจะตกแต่งเรียบง่าย สะอาดตา

ไม่ใช่ร้านที่ตกแต่งหรูหรา ร้าน Kappo Hisa ก็มีลักษณะชัดเจนเช่นนั้น 

ปกติรับจองประมาณ 8 ที่นั่ง แต่รับได้เต็มที่ 10 ที่นั่ง แต่วันที่ไป มีแค่ 7 ที่นั่งเท่านั้น 

ค่อนข้างมีระยะห่างกับคนข้างๆ จึงสามารถทานได้ช้าๆ  

ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนสุภาพ จึงเหมาะกับคนที่ต้องการค่อยๆ พูด ค่อยๆ ทานช้าๆ  

คนญี่ปุ่นมักใช้เป็นสถานที่รับรองแขกพูดคุยธุรกิจ

ซึ่งเราก็รู้สึกว่าเหมาะกับการใช้เป็นสถานที่รับรองแขกพิเศษ 

เมนูและรสชาติของอาหาร Omakase ที่ Kappo Hisa

อย่างที่บอกไปตอนต้น ร้าน Kappo Hisa ไม่มีเมนู 

ต้องแจ้งกับทางร้านไว้ล่วงหน้าว่าทานอะไรไม่ได้บ้าง 

เมื่อไปถึงร้าน แล้วค่อยคุยกับเชฟฮิสะว่าจะเลือกทานอะไร 

อาหารหลักคือ เนื้อปลา ซึ่งวิธีปรุงก็จะเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบ

ดังนั้นถึงแม้ว่าจะไปทุกวัน อาหารก็จะแตกต่างกัน 

วันที่ไปทานจะเป็นคอร์ส 12 รายการรวมของหวาน 

จานแรกของวันนี้ คือ ปลิงทะเล 

Kappo Hisa (割烹ひさ)

เป็นอาหารที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน มีทั้งรสเค็ม เปรี้ยว หวาน กลมกล่อม เหมาะกับเป็นอาหารจานแรกอย่างลงตัว  

การปรุงรสทำแบบง่ายๆ ลดความเค็ม แต่เป็นการปรุงรสที่ชูจุดเด่นของวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี 

ร้านอาหารญี่ปุ่นหลายแห่งในประเทศไทยมักเน้นรสเค็ม

แต่ร้านนี้ลดความเค็ม มีกลิ่นหอมและน้ำซุปที่โดดเด่น 

จานที่สอง “โฮตารุอิกะ (ปลาหมึกหิ่งห้อย) จากโทยามะราดด้วยมิโซะน้ำส้มสายชู”

ปลาหมึกหิ่งห้อยมีขนาดเล็ก แต่มีรสหวานเข้มข้น

กลมกลืนกับมิโซะผสมน้ำส้มสายชูที่หวานเล็กน้อยช่วยชูจุดเด่นของวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี 

Kappo Hisa (割烹ひさ)

ร้านอาหารญี่ปุ่นบางแห่งในประเทศไทยใช้เครื่องปรุงรส เช่น มิโซะน้ำส้มสายชู ที่มีจำหน่ายทั่วไป

แต่ที่ร้าน Kappo Hisa ​​ทุกอย่างทำเองทั้งหมด 

จานที่สามคือ “เม่นทะเลจากฮอกไกโดและหอยเชลล์จากจังหวัดมิยางิ” 

Kappo Hisa (割烹ひさ)

ใช้เม่นทะเลมีระดับคุณภาพเยี่ยม ไม่มีรสขม มีกลิ่นหอมของทะเลและความหวานของเม่น 

หอยเชลล์ยังมีความหวาน เนื้อแน่นและกลิ่นหอมสดชื่นของวาซาบิละลายอยู่ในปาก 

โดยเชฟจะขูดวาซาบิเสิร์ฟให้ต่อหน้า 

คนที่ไม่ชอบวาซาบิที่ขายทั่วไป จะสามารถกิน “วาซาบิแท้”  ของร้านนี้ได้เพราะมีความหวานอ่อนๆ 

เมื่อทานมาถึงตอนนี้ เริ่มคิดว่าสาเกน่าจะเป็นส่วนหนึ่งสำหรับอาหารเหล่านี้

จึงสั่งสาเกชนิดหวานน้อย “ฮากาตะ โนะโมริ” จากจังหวัดฟุกุโอกะ มาดื่มด้วย 

Kappo Hisa (割烹ひさ)
เมนูเครื่องดื่ม

ปกติไม่ค่อยดื่มเหล้า แต่นานๆ ทีก็อยากลองดื่มดูบ้าง 

ในบรรดาสาเกชนิดหวานน้อย  จะมีสาเก “ชนิดหวานน้อยมากๆ”

ซึ่งรสชาติสาเกช่วยลดความเลี่ยนของไขมันปลาได้เป็นอย่างดี 

จานที่สี่คือ “ปลาตาแดงและเต้าหู้งาโฮมเมด” 

Kappo Hisa (割烹ひさ)

น้ำซุปสาหร่ายทะเล (คอมบุ) ชั้นเลิศช่วยชูรสชาติของปลาตาแดง

และในปากเต็มไปด้วยความหวานอ่อนๆ  ของเต้าหู้งาโฮมเมด 

ใช้ช้อนตักซุปกินจนหมด 

จานที่ 5 “ปลาหางเหลืองอินาดะ (ตัวโตขนาดกลาง)”

Kappo Hisa (割烹ひさ)

ให้อารมณ์เหมือนอาหารผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นกับอิตาลี 

โรยหน้าด้วยพริกไทยจากมาดากัสการ์บนปลาหางเหลืองอินาดะ

แต่กลับรู้สึกถึงความหวาน และไม่มีความเผ็ด และได้กลิ่นหอมของพริกไทย

ปลาหางเหลืองอินาดะจะถูกหมักทิ้งไว้ 6 วันเพื่อให้เข้าเนื้ออร่อยยิ่งขึ้น

และเสริมรสชาติด้วยน้ำมันมะกอก น้ำมันงาเล็กน้อย และซอสโชยุ 

เมื่อทาน จะได้กลิ่นหอมสดชื่นของสาหร่ายทั่วปาก 

อร่อย…… 

หันไปเห็นสามีที่นั่งข้างๆ กินไป ยิ้มไป แสดงว่าคงอร่อยจริงๆ 

จานที่ 6 คือ “กุ้ง Botan และไข่ปลาแซลมอนดองซีอิ้วโชยุ” 

Kappo Hisa (割烹ひさ)

กุ้ง Botan เนื้อนุ่มเนียน หวานมัน ละมุนลิ้น 

ได้ยินว่าเชฟฮิสะเป็นผู้ดองไข่ปลาแซลมอนในซีอิ้วโชยุด้วยตัวเอง

รสชาติเค็มและหวานกลมกล่อมเข้ากันได้อย่างลงตัว 

ส่วนตัวไม่ค่อยชอบไข่ปลาแซลมอนที่ไม่ใช่มาจากแหล่งกำเนิด

เพราะว่าเค็มมาก แต่ถ้าเป็นไข่ปลาแซลมอนที่ร้าน Kappo Hisa ถือว่าอร่อยมากจริงๆ  

ชวนให้นึกถึงบ้านเกิดซึ่งอยู่ติดทะเล

และเคยซื้อปลาแซลมอนให้แม่ดองไข่ปลากินกันที่บ้าน 

จานที่ 7 คือ “ไข่ตุ๋นเป็ดโรยหน้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิลจากอิตาลี”  

Kappo Hisa (割烹ひさ)

เชฟหั่นเห็นทรัฟเฟิลเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าและโรยบนไข่ตุ๋นร้อนๆ  กลิ่มหอมอบอวลไปทั่ว 

Kappo Hisa (割烹ひさ)

ด้านใต้เห็ดทรัฟเฟิล มี “เนื้อเป็ดหั่นเป็นชิ้นๆ” ที่ปรุงด้วยความร้อนกำลังพอดี เนื้อเป็ดจึงนุ่ม

ทั้งไขมันและความหวานของเนื้อเป็ดแทรกซึมเข้าไปในไข่ตุ๋น เป็นอีกหนึ่งจานที่ยอดเยี่ยมจริงๆ 

จานที่ 8 “ปลาซาบะจากจังหวัดนางาซากิ”

Kappo Hisa (割烹ひさ)

ทั้งฉันและสามีไม่เคยกินปลาซาบะที่อร่อยเท่าที่นี่มาก่อน 

เชฟเอาเนื้อซาบะจริงๆ ให้ดู มีไขมันเยอะและเงามาก

ได้ยินว่า “ปลาซาบะหมักเกลือ” 2 ชั่วโมง แต่ไขมันปลาเยอะ เกลือจึงไม่เข้าเนื้อ 

รู้สึกได้ถึงความเค็มเล็กน้อย

ปลาซาบะโรยหน้าด้วยหัวไชเท้าขูดและบ๊วย

ช่วยชูรสชาติเข้มข้นของปลาซาบะให้อร่อยยิ่งขึ้น 

จานที่ 9 คือ “โนโดกุโระย่าง (ปลากระพงคอดำ) ” 

Kappo Hisa (割烹ひさ)

เป็นอีกหนึ่งชนิดของปลาที่มีไขมันซึ่งอร่อยแตกต่างจากปลาซาบะ 

ให้ความรู้สึกแปลกที่มีผิวหนังกรอบ แต่เนื้อนุ่ม 

ทั้งฉันและสามีพูดคุยเรื่องวัตถุดิบมาถึงจุดนี้ และเราทั้งคู่ก็เริ่มเงียบ 

ไม่ใช่ว่าเราทะเลาะกัน แต่ต่างฝ่ายกำลังอยู่ในโลกของตนเอง 

จานที่ 10 คือ ” โมสุคุซุ สาหร่ายในน้ำส้มสายชู จากจังหวัดอาโอโมริ” 

Kappo Hisa (割烹ひさ)

กิน “โมซูกุ” ของที่นี่แล้วตกใจ 

เคี้ยวแล้วมีเสียง “กรุบกรุบ” 

เป็นหลักฐานที่บอกว่า “สด” จริงและพิสูจน์ให้เห็นถึง “ความสดใหม่”

ถึงแม้จะอยู่ญี่ปุ่น ถ้าไม่ใช่แหล่งผลิตแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้กิน

“สาหร่ายโมซูกุสดๆ” แต่รู้สึกประหลาดใจที่สามารถหากินได้ในกรุงเทพฯ 

รสเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูนั้นกลมกล่อมและอร่อยจริงๆ 

และก็มาถึงจานที่ 11 ซึ่งปิดท้ายด้วย “ข้าว” 

เชฟฮิสะตัก “ข้าว” ที่หุงแล้วแต่ยังไม่อบให้เล็กน้อย 

ซึ่งข้าวหุงในหม้อดิน 

Kappo Hisa (割烹ひさ)

ข้าวหุงใหม่ น้ำยังระเหยไม่หมด จึงรู้สึกนุ่มเล็กน้อย 

กลิ่นหอมหวานของข้าวอบอวล พอตักเข้าปาก

รู้สึกมีความสุขกับรสเค็มบางๆ ของ “ไข่ปลาตากแห้งป่น”  

จากนั้นทางร้านเสิร์ฟข้าวที่โปะหน้าด้วย

“ส่วนบนของหัวปลาทูน่ากับไข่แดงดองซีอิ๊วญี่ปุ่น” อีกจานหนึ่ง 

Kappo Hisa (割烹ひさ)

เพิ่มเห็ดที่ปลูกเองกับผักกาดดอง ช่วยเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อม 

เนื้อส่วนบนของหัวปลาทูน่า ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังกินเนื้อไก่ 

ข้าวก็อร่อย มารู้สึกตัวก็หลังจากหลับตาพริ้มแล้วกินจนหมด 

และก็มาถึงรายการสุดท้าย

สุดท้ายก็คือ ของหวาน

ขนมหวานของวันนี้คือ ครีมชีสกับสตอร์เบอร์รี่ 

Kappo Hisa (割烹ひさ)

ฉันไม่ค่อยชอบของหวาน แต่จานนี้ให้รสชาติหวานสดชื่นเหมาะสุดที่จะเป็นเมนูปิดท้ายอาหาร 

เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ทำให้รู้สึกว่าอาหารที่อร่อยทำให้ผู้คนมีความสุข 

รู้สึกประทับใจมากถึงความพิถีพิถันในการปรุงอาหารแต่ละจาน

และมีวิธีการปรุงอาหารที่ดึงรสชาติของวัตถุดิบที่ดีที่สุดออกมา 

รู้สึกได้ว่าอาหารเหล่านี้จะสามารถลิ้มรสได้ที่ร้าน Kappo Hisa เท่านั้น 

ครั้งนี้กลับบ้านมาพร้อมกับสัญญากับตัวเองว่าจะต้องไปอีกครั้งให้ได้ 

คำแนะนำในการแต่งกายเมื่อไปทานที่ Kappo Hisa

ร้านนี้ไม่กำหนดเครื่องแต่งกาย 

แต่งตัวตามสบาย 

แอร์ค่อนข้างเย็น เตรียมเสื้อคลุมมาด้วยก็ดี 

งบประมาณและราคาของประสบการณ์ Omakase ที่ Kappo Hisa

เริ่มต้นที่คอร์สละ 4,600 บาท++

มาสองคน

คอร์สละ 4,600 บาท++ สาเก 300 มล. รวมเป็นเงิน 11,388 บาท

และที่นี่ไม่มีเมนูอาหาร

คอร์สทั่วไปเริ่มต้นที่ 4,600 บาท++ ซึ่งจะมีอาหาร 12-14 รายการ

ควรแจ้งงบประมาณและความต้องการล่วงหน้า

ข้อดีและข้อจำกัดของการทาน Omakase ที่ Kappo Hisa

ทำไมคุณควรเลือก Kappo Hisa สำหรับประสบการณ์ Omakase

คุณจะได้ทานอาหารที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลในญี่ปุ่นในสภาพที่ดีที่สุด 

อาหารแต่ละจานปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถัน

อาหารไม่สามารถหาทานได้จากที่อื่น

เป็นระบบจองล่วงหน้า จึงสามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารได้อย่างสบายใจ 

สิ่งที่คุณควรระวังเมื่อทานที่ Kappo Hisa

วัตถุดิบหลักคือ ปลา อาจไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบทานปลา

ไม่มีเมนู อาจมีคนที่รู้สึกกังวลได้ (สไตล์โอมากาเสะ)  

ข้อมูลทั่วไปและวิธีการติดต่อ Kappo Hisa

ที่ตั้ง: ชั้น G ห้อง Mille Malle Sukhumvit สุขุมวิท ซอย 20

この記事が気に入ったら
フォローしてね!

よかったらシェアしてね!
  • URLをコピーしました!
  • URLをコピーしました!

กรุณาแสดงความคิดเห็นหากคุณชอบบทความนี้

コメントする

Contents