สวัสดีค่ะทุกคน
ชิฟูมิ มายด้า ผู้บริหารสาวชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชมบล็อก
“รีวิวจริงจากผู้บริหารสาวชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นะคะ
สิ่งที่ดิฉันจะนำมาแชร์กับทุกคนในวันนี้เป็นเรื่องของ “ขนตามร่างกาย” ค่ะ
เป็นเรื่องที่ทุกคนน่าจะสนใจกันอยู่แล้ว แต่ค่อนข้างน่าอายที่จะพูด
ก็คือ “การกำจัดขน” นั่นเองค่ะ
สาเหตุที่เลือกกำจัดขนในประเทศไทย
ตอนที่ดิฉันยังอยู่ที่ญี่ปุ่นไม่เคยรู้สึกกังวลอะไรกับขนตามร่างกายเลย
แต่ด้วยความที่ประเทศไทยอากาศร้อนมาก ตั้งแต่มาอยู่ไทยเลยชอบใส่ชุดที่เผยให้เห็นส่วนต่างๆ บนร่างกายมากขึ้น
แถมยังรู้สึกเหมือนขนที่ขึ้นมาใหม่จะหนาขึ้นกว่าปกติอย่างไม่รู้สาเหตุอีกด้วยค่ะ
คนส่วนใหญ่ก็คงอยากจะกำจัดขนด้วยเหตุผลเดียวกันนี้…
ดิฉันเริ่มกำจัดขนตามลำดับดังนี้
รักแร้
↓
แขนและนิ้วมือ
↓
หน้าแข้งและบริเวณนิ้วเท้า
↓
↓
↓
VIO หรือ Brazilian (บราซิลเลี่ยน) = บริเวณจุดซ่อนเร้นหรือน้องสาวนั่นเองค่ะ!
ครั้งนี้ดิฉันเลยจะมาแนะนำเกี่ยวกับการเลเซอร์กำจัดขนที่คลินิกเสริมความงามให้แก่ทุกคน
การเลเซอร์กำจัดขนถือเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีทางการแพทย์
จึงมีให้บริการทั้งในคลินิกและโรงพยาบาล
ตอนแรกดิฉันเลือกคอร์สกำจัดขนที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง (ซื้อเป็นคอร์สทั้งหมด 8 ครั้ง)
เป็นการกำจัดขนบริเวณบราซิลเลี่ยน จำได้ว่าทำไปประมาณ 8 ครั้งเลยค่ะ
แต่ไม่เห็นผลเลยสักครั้งเดียว
(สำหรับตัวดิฉันนะคะ)
ประเด็นคือตั้งใจจะไปกำจัดขนแท้ๆ แต่หลังจากทำแล้วกลับขึ้นเท่าปกติที่เคยขึ้นเลย
(ไม่ช่วยอะไรเลย! )
ทนทำต่อไปจนจบคอร์ส แต่ปริมาณขนที่ขึ้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
เลยลองไปซื้อคอร์สเลเซอร์กำจัดขนบริเวณบราซิลเลี่ยนใหม่อีกครั้งที่คลินิก
ครั้งนี้ไปมาประมาณ 5 ครั้งค่ะ
เหตุผลที่อยากแนะนำให้ไปเลเซอร์กำจัดขน
ดิฉันอยากจะแนะนำให้ทุกคนลองไปกำจัดขนดูค่ะ
โดยเฉพาะ “ขนรักแร้”
คนที่อยากจะลองเลเซอร์กำจัดขนเป็นครั้งแรก ส่วนมากจะเริ่มที่รักแร้กันเป็นส่วนใหญ่
เพราะขนรักแร้เป็นจุดที่ทุกคนอยากกำจัดออกมากที่สุด
ปกติเราจะใช้มีดโกน แหนบ ครีมหรือแว็กซ์กำจัดขนด้วยตัวเอง
แต่จะวิธีไหนก็รู้สึกว่ายุ่งยากไปหมด แถมยังเป็นการเพิ่มภาระให้กับผิว ทำให้ผิวเกิดการอักเสบได้อีกด้วย
ดิฉันลองเลเซอร์กำจัดขนรักแร้ครั้งแรกที่คลินิกเสริมความงามค่ะ
การเลเซอร์กำจัดขนในตอนนั้นส่วนมากจะใช้ เลเซอร์เจนทัลแย็ก (Gentle YAG Laser) เป็นหลัก
(เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน)
ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีการใช้ Gentle YAG Laser กันอยู่นะคะ
หลังจากเลเซอร์ครั้งแรก ผ่านไป 2 เดือนแล้วก็ไม่มีขนขึ้นมาใหม่เลย
ถึงจะมีขึ้นมา แต่ก็น้อยและบางลงอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากนั้นก็ไปเลเซอร์มาอีก 5 ครั้งภายในระยะเวลา 1 ปี แล้วขนก็ไม่ขึ้นมาอีกเลย
ถึงจะเป็นเรื่องตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน แต่จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ขึ้นมาอีกเลย…
ตอนเลเซอร์กำจัดขนรักแร้ แขนและขา ดิฉันไปทำที่คลินิกแถว BTS ชิดลมค่ะ
แต่ดิฉันรู้สึกว่าถ้าจะเลเซอร์บริเวณบราซิลเลี่ยนมันรู้สึกน่าอายยังไงก็ไม่รู้
เลยเลือกไปคนละที่แค่เฉพาะบราซิลเลี่ยนเท่านั้นค่ะ
ตอนอยู่ที่ญี่ปุ่นดิฉันไม่เคยลองไปกำจัดขนเลยสักครั้ง เลยไม่ค่อยรู้รายละเอียดเท่าไร
แต่สำหรับคลินิกที่ไทย พนักงานจะเป็นคนโกนขนให้ค่ะ
(ที่ญี่ปุ่นต้องโกนเอง)
อันที่จริงไม่ว่าจะเป็นรักแร้หรือบราซิลเลี่ยน ถ้าให้คนอื่นมาโกนให้มันก็ค่อนข้างจะน่าอายอยู่
แต่เชื่อเถอะว่าเดี๋ยวเราก็จะชินไปเอง
เพราะพนักงานเองก็ทำงานด้านนี้เป็นประจำอยู่แล้ว
เลยทำโดยไม่ได้คิดอะไรมากแถมใช้เวลาไม่นานด้วยค่ะ
เวลาทั้งหมดที่ใช้ไปรวมแล้วยังไม่ถึง 1 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ
อีกเรื่องที่ทุกคนน่าจะกังวลกันคือ “เจ็บหรือเปล่า?” ใช่ไหมคะ
มันก็จะรู้สึกเหมือนมีคนเอาหนังยางมาดีดประมาณนั้น
แต่ตอนเลเซอร์ขนรักแร้ไม่รู้สึกเจ็บเลย
แน่นอนว่าไม่ได้เจ็บจนถึงขั้นต้องใช้ยาชาหรือยาสลบ
แต่บราซิลเลี่ยนเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับกระดูก เลยอาจมีเจ็บแปลบๆ บ้างเป็นบางครั้ง
แต่ก็ไม่ได้เจ็บถึงขนาดที่จะต้องกลัวขนาดนั้นค่ะ
นอกจากนี้ยังได้ยินมาว่าผู้ชายเองก็มากำจัดขนกันเยอะเหมือนกันนะคะ
จากที่ถามกับพนักงานในคลินิกมา ส่วนมากผู้ชายญี่ปุ่นจะมาเลเซอร์กำจัดขนบริเวณหนวดกัน
ส่วนผู้ชายตะวันตกเหมือนจะนิยมเป็นบราซิลเลี่ยนค่ะ
ดิฉันจะลองบอกข้อดีและข้อเสียของการเลเซอร์กำจัดขนตามประสบการณ์จริงดูนะคะ
ข้อดีของการเลเซอร์กำจัดขน
ข้อเสียของการเลเซอร์กำจัดขน
การกำจัดขนบริเวณบราซิลเลี่ยนที่หลายคนอาจสนใจแต่ไม่กล้าถามใคร
ดิฉันก็อัปเรื่องนี้ลงในบล็อกภาษาญี่ปุ่นของดิฉันด้วยเหมือนกัน
แล้วก็มีหลายคนเลยที่ฟีตแบคกลับมาว่า
ดิฉันคิดว่าคงไม่ค่อยมีใครกล้าเปิดเผยใบหน้ากับชื่อจริงเมื่อเขียนเกี่ยวกับการกำจัดขนบราซิลเลี่ยนสักเท่าไร
เลยอยากแชร์ประสบการณ์ของตัวเองให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
ทำไมถึงอยากกำจัดขนโซนบราซิลเลี่ยน?
เหตุผลที่ทำให้ดิฉันอยากกำจัดขนโซนบราซิลเลี่ยนก็คือ
ด้วยเหตุผลแบบนี้ล่ะค่ะ…
สิ่งที่ดิฉันกำลังจะเล่าต่อจากนี้เป็นเรื่องเมื่อ 10 ปีกว่ามาแล้ว
ตัวดิฉันในตอนนั้นรู้สึกเบื่อกับปัญหาที่ต้องมาคอยกังวลเวลาใส่ผ้าอนามัยแล้วมักจะมีผื่นขึ้นตลอด
แม้ดิฉันจะย้ายมาอยู่ในประเทศที่อากาศร้อนเหมือนไทย แต่ก็ต้องใส่ถุงน่องเวลาทำงานด้วยอยู่ดี
เลยคิดว่าสาเหตุน่าจะมาจากความอับชื้นที่เกิดขึ้นในบริเวณนั้นค่ะ
ตามที่ได้บอกไว้ด้านบนว่า บราซิลเลี่ยน เรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า VIO
ซึ่งคำว่า VIO มีที่มาจาก
ดิฉันทำทั้งหมดเลยตั้งแต่ครั้งแรกค่ะ
ซึ่งพนักงานที่คลินิกเป็นคนทำให้ทั้งหมดเลย
ดูเหมือนว่านักกีฬาในต่างประเทศไม่ว่าจะเพศไหนก็จะโกนขนบริเวณบราซิลเลี่ยนกันเป็นปกติอยู่แล้ว
แต่ส่วนแรกที่ดิฉันนึกถึงจะเป็นโซน Bikini Line (หรือที่เรียกว่า V line)
เลยลองไปปรึกษาคุณหมอดู
คุณหมอเลยให้คำแนะนำมาว่า
แต่ในส่วนของขนบริเวณบราซิลเลี่ยน ดิฉันเลือกปรึกษาคุณหมอที่เป็นผู้หญิงค่ะ
(คลินิกส่วนมากจะสามารถเลือกได้ระหว่างหมอผู้ชายกับหมอผู้หญิง)
ตอนแรกก็จะปรึกษากันเรื่องลักษณะและปริมาณขนที่ขึ้นมาแล้วลองดีไซน์พร้อมกับคุณหมอ
ดิฉันเลือกซื้อเป็นคอร์สเลเซอร์กำจัดขนทั้งหมด 8 ครั้ง
แต่สุดท้ายแล้วทั้ง 8 ครั้งนั้นก็เลือกเป็นกำจัดขนบริเวณบราซิลเลี่ยนทั้งหมดเลย
แต่ดิฉันไม่ได้เลเซอร์ออกจนหมดเลยนะคะ ยังมีขนขึ้นมาใหม่บ้างพอประมาณ
เพื่อไม่ให้รู้สึกแตกต่างจากคนอื่นที่ไม่ได้โกนจนเกินไปเวลาไปเข้าออนเซ็นที่ญี่ปุ่น
(ตอนเข้าออนเซ็นที่ญี่ปุ่น เราจะถอดเสื้อผ้าออกหมด)
เพื่อนของดิฉันที่ทำงานเป็นคนดูแลผู้สูงอายุที่ออสเตรเลียบอกว่า
คนที่ทำงานด้านนี้บางคนจะกำจัดขนบราซิลเลี่ยนทั้งหมดออกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ
เหตุผลคือไม่อยากให้บริเวณนั้นเกิดการอับชื้นและสามารถดูแลร่างกายให้ถูกสุขลักษณะอยู่เสมอได้
และนี่ก็คือข้อดีและข้อเสียของการกำจัดขนบริเวณบราซิลเลี่ยนในมุมมองของดิฉันนะคะ
ข้อดีของการกำจัดขนโซนบราซิลเลี่ยน
ข้อเสียของการกำจัดขนโซนบราซิลเลี่ยน
สรุป
บล็อกเกี่ยวกับการเลเซอร์กำจัดขนในครั้งนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวของดิฉัน
และดิฉันก็คิดว่ายังมีหลายคนที่เลือกกำจัดขนด้วยตัวเองทุกวันอยู่
แต่ก็มีอีกหลายคนที่มองเห็นข้อดีของการเลเซอร์กำจัดขนอยู่มากเช่นกัน
กรุณาแสดงความคิดเห็นหากคุณชอบบทความนี้