สวัสดีค่ะทุกคน
ชิฟูมิ มายด้า ผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชมบล็อก
“รีวิวจริงจากผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นะคะ
วันนี้ดิฉันขอแนะนำ “Tempura to Kamameshi Obara”
ที่ตั้งอยู่บนสุขุมวิทซอย 69 ให้แก่ทุกท่านค่ะ
“Tempura to Kamameshi Obara” เป็นชื่อของร้าน
หมายถึง “Tempura and Kamameshi by Obara” ค่ะ
สามีของดิฉันมาจากโอซาก้าและเขาอยากลองเทมปุระสไตล์คันไซมาก
ฉันต้องการกินเทมปุระ สไตล์คันโซ
ดิฉันไม่รู้ว่ามีเทมปุระ “สไตล์คันไซ” และ “สไตล์คันโต”
และขอบอกตามตรงว่าดิฉันไม่ค่อยรู้เรื่องเทมปุระมากนักเพราะรู้สึกเฉยๆ
ครอบครัวสามีของดิฉันเปิดร้านอาหาร และคุณพ่อของเขาก็เป็นพ่อครัว
ดังนั้นเทมปุระจึงเป็นรสชาติที่มีความทรงจำที่ดี
เพื่อนคนหนึ่งบอกดิฉันว่า
“Tempura to Kamameshi Obara” มีเทมปุระสไตล์กันไซ
เราจึงไปที่นั่นกันดู
คันโต vs คันไซ: ความแตกต่างของเทมปุระในสองสไตล์
ก่อนอื่น ดิฉันขออธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับพื้นที่ต่างๆ ในญี่ปุ่นว่าเป็นอย่างไร
คันโตเป็นพื้นที่โดยรอบโตเกียว ส่วนคันไซเป็นพื้นที่รอบโอซาก้าและเกียวโต
อาหารจึงมีความแตกต่างกันมาก โดยมีดาชิ ซอสถั่วเหลือง และวิธีการปรุงอาหารที่แตกต่างกัน
เทมปุระจะจัดเตรียมตามวิธีที่แตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับร้านอาหารและผู้เชี่ยวชาญ
แต่จากที่ศึกษาดู จะพบว่ามีลักษณะต่อไปนี้ค่ะ
เทมปุระคันโต: ลักษณะเด่นที่คุณต้องรู้
แป้งของเทมปุระสไตล์คันโตจะค่อนข้างหนาและแน่น
โดยมักจะผสมกับไข่ซึ่งช่วยให้แป้งจับตัวกันและยึดติดกับส่วนผสมได้ดี
น้ำมันเทมปุระสไตล์คันโตมักใช้น้ำมันงาหรือน้ำมันงาผสมน้ำมันเรพซีด
ทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
มักใช้อาหารทะเล
โดยปกติจะรับประทานคู่กับซุปเท็นซึยุ (ที่ทำจากน้ำซุป ซีอิ๊ว และน้ำตาล)
เทมปุระคันไซ: สิ่งที่คุณไม่ควรพลาด
แป้งเทมปุระสไตล์คันไซจะบางและกรอบ
โดยทั่วไปจะไม่ใช้ไข่ ซึ่งช่วยเน้นรสชาติของส่วนผสม
ส่วนใหญ่จะใช้น้ำมันเรพซีด
มีรสชาติปานกลางและเน้นรสตามธรรมชาติของส่วนผสม
ใช้ผักและพืชป่าหลากหลายชนิด
มักรับประทานคู่กับเกลือและมะนาว
นี่คือความแตกต่างหลักๆ ระหว่างเทมปุระสไตล์คันโตและคันไซ
หลังจากที่ได้ลองเทมปุระสไตล์คันไซในครั้งนี้
ดิฉันพบว่าโดยส่วนตัวแล้วชอบสไตล์คันไซมากกว่าเพราะเป็นอาหารทอดแบบเบาๆ
ดิฉันอยากลองเทมปุระพร้อมเพลิดเพลินไปกับเอกลักษณ์ของเทมปุระแต่ละอย่างไปด้วย
วิธีจองโต๊ะและสำรวจภายในที่ Tempura to Kamameshi Obara
คู่มือการจองที่ Tempura to Kamameshi Obara: ขั้นตอนที่ละเอียด
สามารถจองด้วยวิธีการต่อไปนี้ค่ะ
ดิฉันเลือกจองทางไลน์
สามารถจองในวันเดียวกันได้เลย
ดิฉันบอกทางร้านด้วยว่าสามีของดิฉันอยากทานเทมปุระสไตล์คันไซ
และทางร้านก็ปรับเปลี่ยนส่วนผสมต่างๆ ให้
บรรยากาศของ Tempura to Kamameshi Obara: ชมภาพบรรยากาศจริง
เมื่อเข้าไปภายในร้าน คุณจะรู้สึกเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่น
มีเคาน์เตอร์ประมาณ 8 ที่นั่งรอบบริเวณทำอาหาร
ชั้น 2 มีโต๊ะที่นั่งได้ประมาณ 30 คน
หากมาเป็นกลุ่มเล็ก ดิฉันขอแนะนำที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ค่ะ
คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารแบบสบายๆ ในบรรยากาศที่คล้ายกับอิซากายะของญี่ปุ่น
บทวิจารณ์และการให้คะแนนเทมปุระที่เป็นกลางสำหรับ Kamameshi Obara
เมนูต้องลองที่ Kamameshi Obara
ชื่อร้านเขียนว่า “Tempura” และ “Kamameshi”
ซึ่งบ่งบอกว่านี่คือสองเมนูหลักที่ร้าน
Kamameshi มีทั้งหมด 5 ชนิด และใช้เวลาหุงประมาณ 30 นาที
Kamameshi คืออะไร
Kamameshi เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่แปลตรงตัวว่า ‘ข้าวหุงในหม้อ’
เมนูนี้จะเตรียมในหม้อเหล็กหรือหม้อดินแบบพิเศษที่เรียกว่า Kama
โดยมีส่วนผสมหลักได้แก่ ข้าวขาว ปลา เนื้อสัตว์ ผัก
และเครื่องปรุงรสต่างๆ เช่น ซีอิ๊ว มิริน และดาชิ
ทางร้านไม่ได้มีแค่ Kamameshi เท่านั้น แต่ยังมีอุด้งด้วย
ในวันนั้นเชฟโอบาระก็แนะนำ Kamameshi
แต่ดิฉันอยากจะเพลิดเพลินไปกับเทมปุระจริงๆ เลยยังไม่ได้สั่ง
ซึ่งในรายการอาหารพิเศษจะมีเทมปุระหลากหลายแบบ
ทั้งเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผัก และอาหารนานาชนิด
ทางร้านยังแนะนำส่วนผสมที่ไม่มีในเมนูด้วย
แล้วแต่ว่าในวันนั้นจะมีอะไรบ้าง
ในวันที่เราไปมี “ตับไก่ตุ๋น” ค่ะ
ดิฉันรู้สึกประหลาดใจกับความหลากหลายของอาหารจานเดี่ยวและปริมาณอาหาร
ทางร้านจะทอดเทมปุระตรงหน้าเราทีละชิ้นตามความเร็วในการรับประทานของเรา
เนื้อแป้งจะบางและเบาตามสไตล์คันไซ
ผักมีรสหวานจากการทอด
“ผมอยากทานเทมปุระสไตล์คันไซ!”
สามีของดิฉันที่อยากลองเทมปุระสไตล์คันไซก็ชอบมากเช่นกัน
สามีของดิฉันทานแบบหยุดไม่ได้
เทมปุระในภาษาคันไซคือขิงแดง (เรียกว่าเบนิโชกะ) และรากบัว (เรียกว่าเรนคอน)
มีเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์
วันนั้นทางร้านมีเทมปุระหอยเป๋าฮื้อด้วย ดิฉันจึงสั่งมาลอง
หอยเป๋าฮื้อไม่เหนียวเลย แถมยังมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างนุ่ม
กลิ่นของทะเลกระจายไปทั่วทั้งปากเลยค่ะ
เคยมีลูกค้าท่านหนึ่งสั่งหอยเป๋าฮื้ออย่างเดียว 10 ตัว เพราะว่าอร่อยมาก
ดิฉันมัวแต่ทานจนลืมถ่ายรูป ดิฉันทานไปคนเดียวประมาณ 10 อย่างได้ค่ะ
ตามที่ได้บอกไว้แต่แรก เราชอบเทมปุระของทางร้านและกลับบ้าน
ด้วยความพึงพอใจอย่างมากและสัญญาว่าจะกลับไปอีก
ต้นทุนและความคุ้มค่า: รับประทานอาหารที่ Kamameshi Obara
ราคาเทมปุระเริ่มต้นที่ 38 บาท
ซึ่งถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับร้านเทมปุระร้านอื่นในกรุงเทพฯ
อาหารทะเลและเนื้อสัตว์ก็มีราคาสมเหตุสมผลไม่เกิน 200 บาท
เครื่องดื่มก็มีราคาสมเหตุสมผลเช่นกัน
เราไปเป็นคู่กันสองคน ดื่มเครื่องดื่มสองแก้ว น้ำอัดลมสองแก้ว
และทานเทมปุระจนพุงกางในราคา 2,500 บาท
ข้อดีและข้อด้อยของการรับประทานอาหารที่ Tempura to Kamameshi Obara
สิ่งที่ชอบเกี่ยวกับ Tempura to Kamameshi Obara
ข้อด้อยของ Tempura to Kamameshi Obara: สิ่งที่ต้องรู้
Tempura to Kamameshi Obara: สถานที่และเวลาทำการ
ที่อยู่:26, 26 ซอย สุขุมวิท 69 พระโขนงเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110
วันอังคาร – วันศุกร์ เวลา 17.00 – 00.00 น
วันเสาร์และวันอาทิตย์ 11.30-15.00 น. 17.00-00.00 น.
ไม่มีเมนู Kamameshi ในช่วงอาหารกลางวันของวันเสาร์และวันอาทิตย์
กรุณาแสดงความคิดเห็นหากคุณชอบบทความนี้