สวัสดีค่ะทุกคน
ชิฟูมิ มายด้า ผู้บริหารสาวชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชมบล็อก
“รีวิวจริงจากผู้บริหารสาวชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นะคะ
ร้านอาหารในกรุงเทพฯ เริ่มจะกลับมาเปิดทำการตามปกติกันแล้ว
แต่ก็ยังเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้อยู่ดี
เลยรู้สึกเหมือนผู้คนจะยังไม่กลับมาใช้บริการกันเยอะเหมือนแต่ก่อน
และในระหว่างช่วงล็อกดาวน์ บริการส่งอาหารถึงบ้าน (Food Delivery)
ก็ได้รับการพัฒนามากขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซึ่งรวมไปถึงเทรนด์ใหม่อย่างบริการเรียกเชฟไปทำอาหาร
ให้ทานที่บ้านก็ได้รับความนิยมมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ปกติดิฉันชอบทานอาหารที่บ้านอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้รู้สึกอยากจะลองอะไรที่ต่างไปจากเดิมดูบ้าง
เลยลองสั่ง “Home Omakase” จากร้าน Sushi Juban
ที่เคยเห็นโฆษณาผ่านตาบ่อยๆ ใน Facebook ดูค่ะ
บริการ “โอมากาเสะที่บ้าน” โดยเชฟชาวญี่ปุ่นจากร้าน Sushi Juban
ช่วงนี้ดูเหมือน “โอมากาเสะ” จะได้รับความนิยมอย่างมากในกรุงเทพฯ
เพราะนอกจากโฆษณาร้านอาหารญี่ปุ่นที่ขึ้นใน Facebook หรือ Instagram แล้ว
ช่วงนี้ก็เริ่มเห็นโฆษณา “OMAKASE Course” ผ่านตามากขึ้นด้วยเช่นกัน
จู่ๆ ดิฉันก็นึกอยากปลี่ยนบรรยากาศในการทานข้าวที่บ้านขึ้นมา
เลยลองใช้บริการจากร้าน Sushi Juban
ให้อิตามาเอะซัง (เชฟทำอาหารหน้าเคาน์เตอร์) มาเสิร์ฟโอมากาเสะเป็นมื้อเย็นที่บ้านดูค่ะ
ได้ลองเรียกเชฟมาถึงบ้านทั้งที ครั้งนี้เลยลองสั่งเป็นชุด
Omakase Kobayashi Premium เลยค่ะ
ในเซ็ตจะประกอบไปด้วย Small dishes 6 จาน
ตามด้วยซูชิ 9 อย่างเสิร์ฟพร้อมซุปมิโสะ
แล้วปิดท้ายด้วยของหวาน
ผู้เชี่ยวชาญด้านซูชิอย่างเชฟโคบายาชิมาทำอาหารให้ถึงตรงหน้าเลย
ซึ่งแน่นอนว่าเชฟจะเตรียมมาให้ทุกอย่างตั้งแต่วัตถุดิบ ตะเกียบ รวมไปถึงจานด้วย
สิ่งที่ดิฉันเตรียมไว้ก็มีแค่สาเกกับแผ่นรองจานเท่านั้นค่ะ
เชฟจะทำอาหารให้ดูตรงหน้าเหมือนตอนไปทานที่ร้าน
และจะคอยสังเกตและปรับความเร็วในการทำให้เข้ากับคนทานอย่างพวกเราด้วย
เชฟจะชวนเราคุยไปด้วยในระหว่างที่เรากำลังดื่มด่ำกับรสความอร่อยของอาหาร
เวลาไปร้านอาหาร ดิฉันและสามีต่างก็ชอบนั่งตรงเคาน์เตอร์
และเพลิดเพลินไปกับการกินอาหารพร้อมดูอิตามาเอะซังทำอาหาร
การที่ได้นั่งมองเชฟซึ่งใช้มีดได้อย่างชำนาญกำลังรังสรรค์อาหารจานพิเศษขึ้นมาแบบใกล้ๆ อย่างนี้
ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูโชว์ที่สนุกมากๆ อยู่เลยค่ะ
เรากินข้าวเย็นกันที่บ้านท่ามกลางบรรยากาศที่คุ้นเคย
แต่กลับรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมยังไงก็ไม่รู้ค่ะ…
เอาจริงๆ แค่ได้มองจานสวยๆ ที่เชฟเตรียมมาให้ก็รู้สึกสนุกมากแล้วค่ะ
ส่วนตัวแล้ว ดิฉันชอบเมนู “เส้นผัดออนท็อปด้วยตับและหอยเป๋าฮื้อ” มากๆ
เพราะไม่เคยกินที่ร้านไหนมาก่อนเลย
เชฟเล่าเกี่ยวกับวัตถุดิบต่างๆ ที่เรียนรู้ในแต่ละวัน
ราวกับกำลังวิจัยอาหารเพื่อรังสรรค์เมนูแสนพิเศษเหล่านี้ขึ้นมา
ด้วยความที่นั่งทานอยู่ที่บ้าน คุณจะได้ยินแค่เสียงของเชฟซึ่งกำลังทำอาหารและเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง
ซาชิมิเองก็รสชาติดีมากๆ ดิฉันจึงทานไปพลาง จิบไวน์ขาวไปพลาง
เต้าหู้งาดำจะเสิร์ฟมาในรูปแบบของหวาน ให้รสหวานเบาๆ
พร้อมกลิ่นหอมของงาดำที่กระจายอยู่เต็มปาก
ในส่วนของซูชิ ตอนแรกดิฉันก็อยากจะรีวิวให้ครบทั้ง 9 จานนะคะ
แต่ดิฉันต้องขอโทษทุกคนจริงๆ ที่ถ่ายมาไม่ครบ
เพราะดิฉันมัวแต่เพลิดเพลินไปกับการกินจนลืมถ่ายรูปไปเลยค่ะ…
ซูชิของร้าน Sushi Juban จะผสม “Red Vinegar (น้ำส้มสายชูแดง)” ลงไปในข้าวแทน
ทำให้ข้าวซูชิมีสีค่อนไปทางน้ำตาล
แม้ในกรุงเทพฯ จะมีร้านซูชิอยู่มากมาย
แต่ก็ไม่ค่อยมีร้านไหนใช้น้ำส้มสายชูแดงผสมกับข้าวซูชิใช่ไหมคะ?
↓ซุปของซุปมิโซะทำมาจากหัวกุ้ง
ให้รสชาติเหมือนซุปมิโซะทั่วไปที่มีกลิ่นหอมของดาชิตีขึ้นมา
และเมนูสุดท้ายในวันนี้ เราจะปิดท้ายกันด้วยของหวานสอดไส้เมลอนเชอร์เบทค่ะ
วันนี้พวกเราทั้งรู้สึกเต็มอิ่มไปกับรสอร่อยของอาหารแถมยังสนุกไปกับการดูเชฟทำอาหารอีกด้วย
“โอมากาเสะ” ที่แต่ก่อนจะต้องไปกินถึงที่ร้านเท่านั้น
แต่ตอนนี้พร้อมให้บริการทุกคนถึงที่บ้านแล้วนะคะ!
หลังจากนี้ดิฉันก็ว่าจะลองแวะไปกินที่ร้านดูเหมือนกันค่ะ
สิ่งที่อยากแนะนำเกี่ยวกับร้าน Sushi Juban
รายละเอียดร้าน Sushi Juban (ซูชิ จูบัน)
Sushi Juban สาขาอโศก (สาขาหลัก)
เว็บไซต์: www.sushijuban-asok.com
ที่จอดรถ: มี (จอดรถที่ตึก Young Place)
Sushi Juban Takumi สาขาทองหล่อ
เว็บไซต์: www.sushijuban-takumi.com
ที่จอดรถ: มี
กรุณาแสดงความคิดเห็นหากคุณชอบบทความนี้