Cagette Canteen & Deli – รีวิวร้านอาหารฝรั่งเศสที่อร่อยย่านสาทร!

(รีวิว) 3 ออนเซ็นดังในกรุงเทพฯ

สวัสดีค่ะทุกคน

ชิฟูมิ มายด้า ผู้บริหารสาวชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ 

ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชมบล็อก

“รีวิวจริงจากผู้บริหารสาวชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นะคะ

วันนี้ดิฉันจะมาแนะนำออนเซ็น 3 แห่งในกรุงเทพฯ ค่ะ

ดิฉันเป็นคนชอบอ่างอาบน้ำมาก ถึงขนาดต้องอาบน้ำในอ่างที่บ้านทุกวัน

จริงๆ ออนเซ็นโปรดของดิฉันอยู่ที่จังหวัดกระบี่ซึ่งเคยแนะนำไปคราวก่อนแล้ว

แต่ตัวดิฉันอยู่กรุงเทพฯ เลยรู้สึกว่ามันไกลไปหน่อย

รอบนี้เลยจะมาแนะนำออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ 3 แห่งในกรุงเทพฯ

อยู่ใกล้แค่นี้อยากจะไปเมื่อไรก็ไปได้ค่ะ

ออนเซ็นที่ดิฉันจะนำเสนอในวันนี้ ดิฉันไปมาเองจริงๆ หลายครั้งแล้ว

เลยอยากมาแนะนำจุดเด่นของออนเซ็นแต่ละแห่งที่ดิฉันชื่นชอบให้ทุกคนใช้เป็นหนึ่งในตัวเลือก

Contents

Yunomori Onsen & Spa (ยูโนะโมริ ออนเซ็น แอนด์ สปา)

เป็นร้านที่ทำให้ออนเซ็นเริ่มเป็นที่นิยมขึ้นมาในกรุงเทพฯ

Infront of Yunomori Onsen & Spa
ด้านหน้าYunomori Onsen & Spa

มี 3 สาขาในไทย แล้วก็มีที่สิงคโปร์ด้วยค่ะ

ในไทยสาขาแรกจะอยู่ที่ A Square สุขุมวิทซอย 26

สาขาที่สองอยู่ที่สาทรซอย 10 และสาขาสุดท้ายอยู่ที่บางละมุง พัทยาค่ะ

ด้านในจะให้บรรยากาศเหมือนออนเซ็นญี่ปุ่นแท้ๆ แบ่งฝั่งชาย-หญิงไว้เรียบร้อย

อันดับแรกก็รับกุญแจล็อกเกอร์จากพนักงานต้อนรับ และเดินไปที่ออนเซ็นฝั่งผู้หญิงค่ะ

พอลอดผ่านม่านกั้นห้องแบบญี่ปุ่นมาแล้วก็จะเป็นโซนแต่งตัว

ที่ไทยไม่มีวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็นแบบเปลือยหมด ทางร้านเลยจะให้ชุดว่ายน้ำแบบใช้แล้วทิ้งมา

แต่ดิฉันไม่ชอบใส่ชุดว่ายน้ำแล้วแช่ออนเซ็น เลยเข้าไปแบบเปลือยหมดเหมือนออนเซ็นที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ

ส่วนเพื่อนคนไทยที่มาด้วยกันรู้สึกอายเลยใส่ชุดว่ายน้ำที่ทางร้านให้มา

ในส่วนของผ้าเช็ดตัวก็มีให้ยืมใช้ได้ฟรี

จากนั้นก็เก็บสัมภาระไว้ที่ล็อกเกอร์แล้วไปโซนออนเซ็นกันค่ะ

ล็อกเกอร์ของที่นี่จะค่อนข้างเล็ก ต่างกับอีก 2 ที่ที่ดิฉันเลือกมาแนะนำในวันนี้ค่ะ

บริเวณบ่อออนเซ็นจะมีโซนล้างตัว อ่างอาบน้ำ  Mist Sauna และ Dry Sauna

ที่นี่จะมีบ่อน้ำร้อนอยู่หลายแบบ ทั้งออนเซ็นแบบธรรมดา บ่อโซดา (Soda bath) และบ่อเจ็ท (Jet Bath)

แต่ละบ่อล้วนนำน้ำแร่จากธรรมชาติแท้ๆ มาจากวัดวังขนาย จังหวัดกาญจบุรี

อุณหภูมิของน้ำร้อนจะอยู่ที่ 37-43 องศา แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของบ่อน้ำร้อนที่เลือก

นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งแยกออกไปในสวน

ที่นี่ไม่ได้มีแค่บ่อน้ำร้อนอย่างเดียวนะคะ แต่มีบริการนวด และห้องอาหารด้วยค่ะ

ดิฉันรวบรวมข้อดีและข้อเสียของร้าน Yunomori Onsen & Spa ไว้ตามนี้ค่ะ

ข้อดี

เทียบกับอีก 2 ที่แล้วราคาถือว่าไม่แพง (ผู้ใหญ่ 500 บาท)

หากจองแบบโปรโมชั่นผ่านแอป GoWabi ก็จะได้ราคาที่ถูกลง

มีชุดยูกาตะให้ยืมใส่ (เลือกชนิดของยูกาตะได้ด้วย)

Yunomori Onsen & Spa

สาขาสาทรซอย 10 มีสวนขนาดใหญ่สไตล์ญี่ปุ่นพร้อมบาร์ให้นั่งชิลได้ด้วยค่ะ ใช้เวลาอยู่ในนี้ทั้งวันได้เลย

Drink bar at Sathorn 10 branch at Yunomori onsen

มีชุดว่ายน้ำแบบใช้แล้วทิ้งให้ยืมได้ คนที่รู้สึกอายตอนแช่ออนเซ็นก็สบายใจได้ค่ะ

ที่จอดรถของสาขาสุขุมวิทซอย 26 กว้างมาก

ข้อเสีย

ล็อกเกอร์เล็กไปหน่อย ใส่ของได้น้อย

มีผ้าเช็ดตัวให้ยืมแค่คนละ 1 ผืน

มีชุดว่ายน้ำใช้แล้วทิ้งให้ใส่ อาจทำให้น้ำสกปรกได้ง่ายหากมีเส้นผมไปติด

สาขาสาทรซอย 10 ที่จอดรถค่อนข้างเล็กและมักจะเต็มอยู่บ่อยครั้ง

สาขาสุขุมวิทซอย 26 กับสาทรซอย 10 ตัวร้านอยู่ค่อนข้างไกลจากสถานี BTS

รายละเอียดร้าน

สาขาสุขุมวิทซอย 26

A-Square 120/5 ซอยสุขุมวิท 26

Tel:(+66)2 259 5778

E-mail:sukhumvit26@yunomorionsen.com

เวลาทำการ: 10:00-23:00 (รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดสอบถามกับทางร้านโดยตรง)

ค่าบริการ: 500 บาท

Homepagehttps://www.yunomorionsen.com/

สาขาสาทรซอย 10

54 ซอยศึกษาวิทยา ถนนสาทรเหนือ (ซอยสาทร 10)

Tel: (+66)2 164 2643-47

E-mail:sathorn10@yunomorionsen.com

เวลาทำการ: 10:00-23:00 (รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดสอบถามกับทางร้านโดยตรง)

ค่าบริการ: 500 บาท

Homepage:https://www.yunomorionsen.com/

สาขาพัทยา

300/59 ถนนเทพประสิทธิ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จังหวัดชลบุรี

Tel. : (+66)38 197 038

E-mail: pattaya@yunomorionsen.com

เวลาทำการ: 10:00-23:00 (รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดสอบถามกับทางร้านโดยตรง)

อื่นๆ: ปัจจุบันปิดทำการวันจันทร์-พุธ

ค่าบริการ: 500 บาท

Homepagehttps://www.yunomorionsen.com/

(เช็คโปรโมชั่นผ่าน GoWabi)

หากใส่โค้ดด้านล่างนี้จะได้รับส่วนลด 100 บาทด้วยนะคะ

kobyikav-4111080

Panpuri Wellness (ปัญญ์ปุรีเวลเนส)

ออนเซ็นเจ้าของเดียวกับ Panpuri แบรนด์สปาชื่อดังของไทย

Infront of Panpuri wellness

ถ้าดิฉันจะไปไหว้พระแถวนั้นก็จะต้องแวะไปทุกครั้งเลยค่ะ

Panpuri Wellness จะอยู่บนชั้น 12 ของตึก Gaysorn Tower ซึ่งที่ตึกนี้จะมีพระรูปของพระแม่ลักษมีประดิษฐานอยู่

พอไหว้เสร็จดิฉันก็จะไปแช่ออนเซ็นต่อค่ะ

The Lakshmi statue. (Gaysorn Plaza)
พระรูปของพระแม่ลักษมีค่ะ ใกล้ๆ กับ Gaysorn Tower จะมีศาลเจ้าเล็กๆ อยู่ด้วย เป็นหนึ่งใน Power spot ที่หลายคนรู้จักกันดี

ที่ Panpuri Wellness นอกจากจะมีโซนออนเซ็นแล้วยังมีโซนนวดและสตูดิโอสำหรับเล่นโยคะ

แถมยังสามารถเพลิดเพลินไปกับน้ำผลไม้และมื้ออาหารเพื่อสุขภาพได้ด้วยนะคะ

แน่นอนว่าเป็นร้านในเครือของ Panpuri เลยสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Panpuri ได้จากที่นี่ด้วย สะดวกสุดๆ

ออนเซ็นจะแบ่งเป็นฝั่งชายหญิง มีออนเซ็นส่วนตัว (Private Onsen) ด้วยนะคะ

way to Onsen at Panpuri wellness
พอเดินผ่านโซนต้อนรับมาแล้วจะเจอกับทางเดินยาวแบบนี้ ตรงไปสุดทางก็จะเจอออนเซ็นค่ะ

โซนแต่งตัวของที่นี่เล็กที่สุดในบรรดาออนเซ็นที่ยกมาแนะนำในวันนี้เลยค่ะ

บางครั้งก็จะมีคนที่มาเข้าร่วมคลาสโยคะ ความหนาแน่นในร้านก็จะต่างกันไปขึ้นอยู่กับช่วงเวลา

โซนบ่อน้ำร้อนจะแบ่งออกเป็น Dry sauna, Mist Sauna, บ่อเจ็ท, บ่อโซดา และออนเซ็นแบบพิเศษอีก 2 ชนิด

ตอนไปดิฉันแช่บ่อซิกเนเจอร์ “น้ำแร่จากคุซัตสึออนเซ็น (Kusatsu Onsen)” ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในญี่ปุ่น

อุณหภูมิน้ำร้อนจะอยู่ที่ 37-43 องศา

ส่วน Kusatsu onsen จะอยู่ที่ 43 องศา ถือว่าค่อนข้างร้อนเลยทีเดียว

โซนอาบน้ำกับบ่อน้ำร้อนอยู่ใกล้กัน ตอนแช่น้ำร้อนก็จะเห็นคนที่กำลังล้างตัวอยู่ด้วย รู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไรค่ะ

พวกสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างแชมพูและครีมนวด แน่นอนว่าเป็นของแบรนด์ Panpuri ทั้งหมดเลย

สามารถใส่ชุดว่ายน้ำแบบใช้แล้วทิ้งแช่น้ำร้อนได้เช่นกัน

ร้านอยู่เชื่อมกับสถานี BTS ชิดลม เดินทางสะดวก

เลยให้บรรยากาศแบบนานาชาติที่สุดในบรรดาออนเซ็นที่แนะนำในวันนี้เลยค่ะ

ต่อไปเป็นข้อดีและข้อเสียของ Panpuri Wellness จากมุมมองของดิฉันนะคะ

ข้อดี

ร้านเชื่อมต่อกับสถานี BTS ชิดลม เดินทางสะดวก (มีที่จอดรถด้วย)

สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดเป็นของแบรนด์ Panpuri

มีออนเซ็นส่วนตัว (1,800 บาท/30 นาที)

ข้อเสีย

ห้องล็อกเกอร์ค่อนข้างแคบ บางครั้งก็คนเยอะ

โซนบ่อน้ำร้อนโดยรวมถือว่าค่อนข้างแคบ
(อาจเป็นเพราะมีฟังก์ชันครบเครื่องด้วยค่ะ…)

รายละเอียดร้าน

ชั้น 12 Gaysorn Urban Retreat, Gaysorn Village

Tel. : +66(0) 2 253 8899 or +66(9) 2 275 6097

E-mail: panpuriwellness@panpuri.com organicspa@panpuri.com

เวลาทำการ: 11:00-23:00 (รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดสอบถามกับทางร้านโดยตรง)

ค่าบริการ: 750 บาท

Homepage:https://www.panpuri.com/wellness/

หากใส่โค้ดด้านล่างนี้จะได้รับส่วนลด 100 บาทด้วยนะคะ

kobyikav-4111080

Let’s Relax Onsen and Spa สาขาทองหล่อ – ออนเซ็นย่านสุขุมวิท

ที่นี่เป็นออนเซ็นที่ดิฉันไปบ่อยที่สุดใน 3 แห่งนี้เลยค่ะ

Reception at Let's Relax Onsen, Thonglor.

ออนเซ็นอีก 2 แห่งที่แนะนำไปก่อนหน้านี้ก็ดีนะคะ

แต่ที่นี่แบ่งโซนบ่อน้ำร้อนได้ดีมาก แถมพื้นที่ก็กว้างที่สุดเลยค่ะ

เวลามีแขกมาเยี่ยมจากต่างประเทศ ดิฉันก็มักจะแนะนำให้มาที่นี่ พอไปแล้วทุกคนต่างแฮปปี้กันมากค่ะ

Let’s Relax Onsen and Spa Thonglor ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นมากๆ

เป็นออนเซ็นแบบญี่ปุ่นแท้ๆ เลย (ที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่า SENTOU)

Let’s Relax เป็นร้าน Massage chain ที่มีสาขาในกรุงเทพฯ มากถึง 18 สาขา

นอกจากนี้ยังมีสาขาที่เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต หัวหิน กระบี่

แถมยังขยายสาขาไปในต่างประเทศอย่างเมียนมาร์ จีน และสิงคโปร์ด้วยค่ะ

ส่วนออนเซ็นจะมีอยู่ที่สาขาทองหล่อ กรุงเทพฯ ค่ะ

This is Japanese style entrance at Let's Relax onsen Thonglor.
ทางเข้าสไตล์ญี่ปุ่น ข้างซ้ายเป็นผู้หญิง ข้างขวาเป็นผู้ชาย

แน่นอนว่าหลังจากแช่ออนเซ็นเสร็จก็สามารถไปนวดต่อได้เลย

สาขาทองหล่อจะอยู่ที่ชั้น 5 ของโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ สุขุมวิท

ระหว่างทองหล่อซอย 10 กับซอย 8

ชั้น 5 ทั้งชั้นจะเป็นส่วนของ Let’s Relax ทั้งหมดเลย ซึ่งจะแตกต่างจากที่อื่นตรงที่

มี Bedrock bath (อาบหินร้อน)

มี Cooling room

โซนพักผ่อนเป็นเสื่อทาทามิ ให้ความรู้สึกแบบญี่ปุ่นแท้ๆ (งีบหลับได้ด้วย)

เหมือนออนเซ็นญี่ปุ่นทุกอย่าง ไม่มีชุดว่ายน้ำแบบใช้แล้วทิ้ง ต้องเปลือยกายเข้า

Onsen area at Let's relax Thonglor.

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Bedrock bath ที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพง Pink Salt ได้

โดยรวมอยู่ในค่าบริการทั้งหมดแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ

a lady relaxing at bedrock bath covered with Pink Salt wall

ข้อดี

มี Bedrock bath (อาบหินร้อน)

ห้องแต่งตัวและห้องล็อกเกอร์กว้างมาก

ออนเซ็นญี่ปุ่นแท้ๆ แบบครบวงจร

โซนอาบน้ำกว้าง แยกกับโซนบ่อน้ำร้อนชัดเจน ไม่เห็นคนที่กำลังล้างตัวอยู่

ข้อเสีย

ไม่มีชุดว่ายน้ำแบบใช้แล้วทิ้ง คนที่ไม่ชินอาจจะรู้สึกเขินได้ (ดิฉันชินแล้วเลยไม่มีปัญหาค่ะ)

ร้านอยู่ค่อนข้างไกลจากสถานี BTS ทองหล่อ เดินมาลำบาก

รายละเอียดร้าน

ชั้น 5 โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ สุขุมวิท 55 ทองหล่อ (อยู่ระหว่างทองหล่อซอย 10 กับซอย 8)

Tel. : +6620428045

E-mail: sparsvn@letsrelaxspa.com

เวลาทำการ: ตั้งแต่ 10:00 เป็นต้นไป (รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดสอบถามกับทางร้านโดยตรง)

ค่าบริการ: 700 บาท

Homepage: https://letsrelaxspa.com/branch/thonglor/

หากใส่โค้ดด้านล่างนี้จะได้รับส่วนลด 100 บาทด้วยนะคะ

kobyikav-4111080

เคล็ดลับการใช้ออนเซ็นให้สบายใจ

ออนเซ็นทุกที่จะมีแชมพู ครีมนวดผม สบู่อาบน้ำให้ แต่จะไม่มีโฟมล้างหน้าเตรียมไว้ให้ ต้องพกไปเองค่ะ

ไม่มีสกินแคร์เตรียมไว้ให้เลย ควรพกไปเองค่ะ

อาจรู้สึกเวียนหัวได้หากไม่คุ้นชินกับการแช่บ่อน้ำร้อน ให้ลองปรับเวลาในการแช่ดูค่ะ ที่สำคัญคืออย่าลืมเติมน้ำให้กับร่างกายกันด้วยนะคะ

<ข้อควรระวัง>
ช่วงนี้ไม่ว่าจะเป็นออนเซ็นที่ไหนก็ต้องใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีน
บางที่ก็อาจต้องใช้เอกสารรับรองการตรวจ PCR ที่ผลเป็นลบด้วย
กรุณาเช็คกับทางร้านออนเซ็นก่อนล่วงหน้าค่ะ

สรุป

จบไปแล้วกับการแนะนำ 3 ออนเซ็นในกรุงเทพฯ ในครั้งนี้

ไม่ว่าร้านไหนต่างก็มีเอกลักษณ์และจุดเด่นเฉพาะตัวกันทั้งนั้น

อยากให้ทุกคนลองไปสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง

แล้วค้นหาออนเซ็นแบบที่ทุกคนชอบกันดูนะคะ

บล็อกนี้สามารถอ่านได้ในภาษาอังกฤษ

この記事が気に入ったら
フォローしてね!

よかったらシェアしてね!
  • URLをコピーしました!
  • URLをコピーしました!

กรุณาแสดงความคิดเห็นหากคุณชอบบทความนี้

コメントする

Contents