สวัสดีค่ะทุกคน
ชิฟูมิ มายด้า ผู้บริหารสาวชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชมบล็อก
“รีวิวจริงจากผู้บริหารสาวชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นะคะ
วันนี้ดิฉันจะพาทุกคนไปพบกับ ออนเซ็นบ่อน้ำร้อนจากธรรมชาติที่จังหวัดกระบี่
“WAREERAK HOT SPRING & WELLNESS(วารีรัก ฮ็อต สปริง แอนด์ เวลเนส)”
ซึ่งดิฉันไปสัมผัสมาด้วยตัวเองแล้วรู้สึกว่าเป็นที่ที่พิเศษมาก
ออนเซ็น (Onsen) จากธรรมชาติ WAREERAK HOT SPRING & WELLNESS
ทุกคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่าคนญี่ปุ่นชอบแช่ออนเซ็นกันมากๆ
ถึงดิฉันจะอยู่เมืองไทยมานานหลายปี แต่ก็ยังเป็นคนญี่ปุ่นอยู่ดี
และแน่นอนว่าคนที่เกิดในประเทศเมืองหนาวและมีหิมะตกอย่างดิฉัน
จะต้องชอบออนเซ็นที่มีควันอุ่นๆลอยขึ้นมาเป็นที่สุด
คนไทยส่วนใหญ่ติดนิสัยชอบอาบน้ำแบบฝักบัว ไม่ค่อยมีใครชอบลงไปแช่น้ำอุ่น
ห้องพักส่วนมากเลยไม่มีอ่างอาบน้ำ
ส่วนดิฉันเป็นคนที่ชอบอ่างอาบน้ำมากถึงขนาดที่ต้องแช่อ่างน้ำทุกวันเลยค่ะ
และแน่นอนว่าดิฉันก็จะมองหาที่พักที่มีอ่างอาบน้ำด้วย
ดิฉันชอบออนเซ็นมาก ยิ่งพูดถึง “บ่อน้ำร้อนจากธรรมชาติ” แล้ว ดิฉันก็ยิ่งตื่นเต้นไปใหญ่
ที่ญี่ปุ่นมีออนเซ็นอยู่เยอะก็จริง แต่น่าแปลกใจที่ส่วนมากจะเป็นน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน
ไม่ใช่ “บ่อน้ำร้อนจากธรรมชาติ” ที่ไหลลงมาสู่น้ำพุร้อนโดยตรง
บางทีอุณหภูมิของน้ำร้อนก็ร้อนจนเกินไปเลยต้องเติมน้ำเพิ่มเข้าไปเพิ่มทำให้อุณภูมิลดลง
หรือบางทีอุณหภูมิของน้ำก็เย็นเกินไปจนต้องทำให้อุ่นขึ้น
คนที่อยู่ในประเทศไทยส่วนใหญ่จะคิดว่าออนเซ็นส่วนมากจะอยู่ทางภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่
หรือไม่ก็จังหวัดกาญจนบุรีทางภาคตะวันตก
แต่กลับมีไม่กี่แห่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
รวมถึงที่พักที่คุณสามารถพักและผ่อนคลายได้อย่างสบายใจ
ซึ่งดิฉันได้ค้นพบสถานที่แห่งนี้ที่จังหวัดกระบี่
ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยรีสอร์ทริมทะเลค่ะ
กระบี่เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องชายหาดมาก
ถึงขนาดที่นำไปใช้เป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง The Beach ที่นำแสดงโดย Leonardo DiCaprio เลยค่ะ
ออนเซ็นที่ดิฉันพูดถึงจะอยู่ลึกเข้าไปในป่าบนหุบเขาห่างจากชายหาดไปประมาณ 50 กิโลเมตร
ด้านข้างจะติดกับอุทยานแห่งชาติ Klong Thom Hot Springs (น้ำพุร้อนคลองท่อม)
ซึ่งเป็นออนเซ็นที่ขึ้นชื่อเรื่องสระมรกตและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
อยู่ท่ามกลางธรรมชาติถึงขนาดมีลิงออกมาวิ่งเล่นทักทายกันเลยค่ะ
แล้วพอตกกลางคืนก็จะมีหิ่งห้อยออกมาให้แสงสว่างวิบวับสวยงาม
มีนกที่หาดูไม่ได้ในกรุงเทพฯ อยู่เต็มไปหมด แค่ได้ชมนกอย่างเดียวก็เพลินมากแล้วค่ะ
และนี่ก็คือโซนออนเซ็นค่ะ น้ำทั้งใสและไม่มีกลิ่นเลย
แถมทางรีสอร์ทยังเคลมไว้อีกว่าน้ำจากออนเซ็นของที่นี่สามารถดื่มได้ด้วย
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นแท้ๆ แต่แทบไม่ค่อยมีออนเซ็นที่สามารถดื่มได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นน้ำที่ไหลจากธรรมชาติสู่บ่อออนเซ็น
ที่นี่จะแยกออนเซ็นเป็น 3 ระดับ ซึ่งอุณหภูมิจะแบ่งออกเป็น 25 35 และ 43 องศา
จากประสบการณ์ส่วนตัว ในตอนกลางวันที่อุณหภูมิค่อนข้างสูงให้แช่ออนเซ็นที่ประมาณ 25 องศา
พอตกค่ำอากาศเริ่มเย็นลงให้แช่ที่ประมาณ 43 องศาค่ะ
อุณหภูมิของออนเซ็นจะเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิของบรรยากาศโดยรอบ
ใกล้ๆ กับออนเซ็นจะมีโต๊ะกับเตียงอาบแดดตั้งไว้ให้
จะนอนเล่นพร้อมอ่านหนังสือไปพลาง กินขนม
หรือนอนกลางวันเพื่อพักผ่อนหย่อนใจก็ได้เช่นกันค่ะ
ในครั้งนี้ดิฉันพักที่ห้อง Bamboo Cottage (กระท่อมไม้ไผ่) ที่ไม่ติดแอร์
ช่วงกลางวันอาจจะร้อนไปบ้าง แต่พอพระอาทิตย์ตกแล้วอุณหภูมิก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว
แค่เปิดหน้าต่างนอนก็รู้สึกหนาวแล้วค่ะ
รอบนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ดิฉันมาพักที่นี่ โดยในช่วงเดือนมีนาคมอุณหภูมิช่วงเช้าจะอยู่ที่ประมาณ 21 องศา
ยิ่งถ้าได้แช่บ่อน้ำร้อนคนเดียวตอนช่วงเช้าที่บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยหมอก เป็นอะไรที่วิเศษมากๆ ค่ะ!
พอพูดถึงจังหวัดกระบี่ทุกคนก็จะนึกถึงแต่ทะเล
ลองเปลี่ยนมุมมองแล้วมาลองแช่ออนเซ็นที่กระบี่กันดูไหมคะ ?
จุดเด่นของ WAREERAK HOT SPRING & WELLNESS
รายละเอียดของ WAREERAK HOT SPRING & WELLNESS
บล็อกนี้สามารถอ่านได้ในภาษาอังกฤษ
กรุณาแสดงความคิดเห็นหากคุณชอบบทความนี้