สวัสดีค่ะทุกคน
ชิฟูมิ มายด้า ผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชมบล็อก
“รีวิวจริงจากผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นะคะ
ตอนนี้กระแสการท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งกำลังเป็นที่นิยมในเมืองไทย
แคมป์ปิ้งมีหลากหลายประเภท ตั้งแต่แบบที่คุณสามารถกางเต็นท์และกลมกลืนไปกับธรรมชาติ
ไปจนถึง Glamping ที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์หรูหราและสะดวกสบาย
แต่ก็มีบรรยากาศเหมือนการแคมป์ปิ้งท่ามกลางธรรมชาติได้เช่นกัน
สำหรับที่พักแบบแคมป์ปิ้ง ก็มีอยู่หลายแห่งรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาใช้บริการ
และวันนี้ดิฉันจะมาพูดถึง Te Mata Glamping ซึ่งตั้งอยู่ที่เขาใหญ่ค่ะ
คู่มือการเที่ยวเขาใหญ่: ค้นพบปลายทางในการ Glamping
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 170 กิโลเมตร
หรือใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 2.5 ถึง 3 ชั่วโมง
เขาใหญ่เป็นชื่อทั่วไปของพื้นที่โดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
และครอบคลุม 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สระบุรี นครนายก และปราจีนบุรี
ธรรมชาติอันกว้างใหญ่ของที่นี่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก
ให้เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทยและเป็นมรดกโลก (World Heritage Site)
คุณสามารถไปเที่ยวเขาใหญ่ได้ตลอดทั้งปีเพราะความสวยงามของที่นี่ไม่เคยจำกัดฤดูกาลค่ะ
แต่อากาศแสนเย็นสบายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์)
ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวมากที่สุด
อากาศที่เย็นสบายมีค่าอย่างยิ่งในประเทศไทยซึ่งมีอากาศร้อนตลอดทั้งปี
ทำให้เขาใหญ่เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมในช่วงฤดูร้อนสำหรับคนไทยจำนวนมาก
พืชและสัตว์นานาพันธุ์ของที่นี่เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว
คุณสามารถดูช้างป่า ลิง และนกนานาชนิดในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่พวกมันอยู่ได้
นอกจากนี้ การได้ไปเที่ยวน้ำตกที่สวยงามและเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์จากจุดชมวิว
จะทำให้คุณรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติเลยค่ะ
เมื่อถึงช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก จะเป็นการเปิดโลกใหม่ที่ต่างไปจากเดิม
โดยจะมีบริการพาชมสัตว์ในเวลากลางคืน
ทำให้ผู้เข้าชมได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในเวลากลางวัน
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
และระบบนิเวศที่น่าหลงใหล
ที่พัก Te Mata Glamping ที่ดิฉันเลือกพักในครั้งนี้ก็อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
โดยอยู่ที่ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาค่ะ
สัมผัสประสบการณ์สุดหรูที่ Te Mata Glamping: Glamping ที่ดีที่สุดในเขาใหญ่
Te Mata Glamping มีแนวคิดในการเชื่อมโยงชีวิตเข้ากับธรรมชาติ
เจ้าของที่นี่ไม่ได้อยู่ในแวดวงของโรงแรม แต่ก็พิถีพิถันในการออกแบบ
และสร้างสรรค์แต่ละไอเดียอย่างสุดหัวใจ
เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับพื้นที่ที่สะดวกสบายและน่าตื่นเต้น
ธรรมชาติอันงดงามที่เขาใหญ่จึงเชิญชวนให้ผู้อยู่อาศัย
เข้ามาสู่สถานที่พักใจซึ่งเป็นแหล่งรวมของความผาสุข
จะอ่านหนังสือริมทะเลสาบ หรือจะสำรวจพื้นที่โดยรอบด้วยรถ ATV
ก็เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนที่ Te Mata Glamping
เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนสามารถเลือกรูปแบบการพักผ่อนในอุดมคติของตัวเองได้
ที่พักที่ไม่เหมือนใครของ Te Mata Glamping: สำรวจประเภทและรูปแบบของห้องพัก
ที่นี่มีที่พักทั้งหมด 7 ประเภทค่ะ
และที่พักที่น่าสนใจเป็นวิลล่าที่คุณสามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ด้วย
Glamps สี่ประเภทนี้ ให้คุณพาสัตว์เลี้ยงไปพักด้วยกันได้:
Glamp ที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้
Glamps สี่ประเภทนี้ ให้คุณพาสัตว์เลี้ยงไปพักด้วยกันได้:
Glamp ที่มีสวนและน้ำพุร้อนธรรมชาติ
สุนัขขนาดใหญ่สามารถเข้าพักได้
Glamp แบบบ้านเดี่ยว สร้างขึ้นบนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 3,000 ตร.ม.
ด้านหน้ามีสนามหญ้ากว้างขวาง
ไม่ว่าสุนัขจะตัวใหญ่ขนาดไหนก็สามารถปล่อยให้วิ่งเล่นในสวนได้อย่างสบายใจเลยค่ะ
มีอ่างจากุชชี่กลางแจ้งที่คุณสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับการชมสวน
โดยสามารถเข้าพักได้สูงสุด 7 คน
ที่พักประเภทโรงแรมแบบ 2 ห้องนอน
เข้าพักได้สูงสุด 5 คน และสุนัขขนาดเล็ก
บนดาดฟ้า มีห้องอาบน้ำและจากุชชี่กลางแจ้ง
สามารถมองเห็นวิวภูเขาได้แบบพาโนรามา
Glamp ที่มีสวนขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำแบบน้ำอุ่น พร้อมอ่างจากุชชี่
สามารถพักได้สูงสุด 4 คน
Glamps ที่ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพัก
Glamps 3 แบบนี้จะไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักค่ะ
เป็นที่พักแบบโรงแรมที่มี 2 ห้องนอน
สามารถเข้าพักได้สูงสุด 5 คน
บนดาดฟ้า มีเตียงอาบแดด และอ่างจากุชชี่กลางแจ้ง และห้องน้ำ
คุณสามารถมองเห็นวิวภูเขาได้แบบพาโนรามา
Glamp แบบ 2 ห้องนอน
สามารถเข้าพักได้สูงสุด 8 คน
มีทะเลสาบขนาดใหญ่พร้อมกับสไลด์เดอร์
มีอุปกรณ์กลางแจ้งสำหรับเด็กแบบเดียวกับสนามเด็กเล่น
เป็นห้องพักที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
และเป็นที่ชื่นชอบสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
มีสระว่ายน้ำแบบน้ำอุ่นด้วยนะคะ
ในครั้งนี้พวกเราเลือกพักที่ Te Mata 360
Glamp แบบ 1 ห้องนอน ที่สามารถรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุด 4 คน
มีระเบียงขนาดใหญ่ และมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามที่ทอดยาวไปเบื้องหน้า
มีสระน้ำแบบน้ำอุ่นพร้อมอ่างจากุชชี่ ห้องนอนและห้องนั่งเล่นอย่างละห้อง
เสน่ห์ของที่นี่จึงอยู่ที่ว่าเราสามารถเลือก glamp
ในแบบของตัวเราเองได้ตามวัตถุประสงค์ในการเข้าพักค่ะ
มาถึงจุดนี้ ดิฉันจะขอรีวิว Te Mata Glamping ที่เราเข้าพักกันเลยนะคะ
รีวิวจริง: ประสบการณ์และความประทับใจจากการเข้าพักที่ Te Mata Glamping
รีวิวจริงและไฮไลท์ในการเข้าพักที่ Te Mata 360
Te Mata Glamping ให้บริการ Glamping 5 ประเภทและ Residence 2 ประเภท
ในแนวคิดที่ไม่เหมือนใครตามที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้
โดยสามารถปรับความต้องการของคุณได้
ตามชื่อ “Glamping” เป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ที่มีความสะดวกสบาย หรูหรา โอ่อ่า
ในครั้งนี้เราพักกันที่ Te Mata 360 ค่ะ
เหตุผลที่เราเลือก Te Mata 360 ก็คือ
Glamp ทั้งหมดน่าสนใจมาก แต่ทั้ง 3 ข้อนี้
เป็นปัจจัยที่ทำให้เราตัดสินใจเลือก Te Mata 360 ค่ะ
Te Mata 360 ที่เราพักในครั้งนี้มีพื้นที่ขนาด 350 ตารางเมตร
มีห้องนั่งเล่นและห้องนอนแยกกัน
หรูหรามากจนคุณอาจจะลืมไปเลยค่ะว่านี่คือเต็นท์
และภายในมีการออกแบบตกแต่งเป็นลายไม้ที่ให้ความรู้สึกเงียบสงบ
เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขา พอเปิดหน้าต่างลมจึงพัดเย็นสบาย
นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำในห้องนั่งเล่น
แถมยังมีห้องครัวที่มีอุปกรณ์ทำอาหารครบครัน
ห้องนั่งเล่นและห้องนอนเปิดออกไปสู่ทิวเขา
มีระเบียงขนาดใหญ่และสระว่ายน้ำพร้อมจากุชชี่
ไม่อยากเชื่อเลยค่ะว่าสระว่ายน้ำจะเป็นสระน้ำอุ่นด้วย
บางท่านอาจสงสัยว่าสระน้ำอุ่นจำเป็นไหมที่ประเทศไทยซึ่งมีอากาศร้อนตลอดทั้งปี
แต่ที่อำเภอปากช่อง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Te Mata Glamping นั้น
อยู่ที่ระดับความสูง 500 เมตร และในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่เราไปพัก
ตอนช่วงเช้าและเย็นอุณหภูมิจะอยู่ที่ 21 องศา
สระน้ำอุ่นจึงเป็นสิ่งที่ต้องการอย่างมากเลยค่ะ
ให้ความรู้สึกเหมือนการแช่น้ำพุร้อนในญี่ปุ่น โดยที่หัวเย็นและร่างกายอบอุ่น
ดิฉันไม่ค่อยอยากว่ายน้ำในสระน้ำอุ่นเพราะระหว่างวันอุณหภูมิจะสูงกว่า 30 องศา
แต่ประสบการณ์การว่ายน้ำในสระพร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้น
และชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในยามค่ำคืน
เป็นช่วงเวลาที่ไม่อาจมีสิ่งใดมาแทนได้เลยค่ะ
ดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะหาโรงแรมที่มีสระน้ำอุ่นในประเทศไทย
กว่าจะรู้ตัว ดิฉันก็ลอยตัวเล่นอยู่ในสระเกือบชั่วโมงแล้ว ผ่อนคลายมาก
สระน้ำอุ่นทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนเลยค่ะ
ในช่วงที่เราพัก ดิฉันมักจะใช้เวลาอยู่บนระเบียงขนาดใหญ่แห่งนี้เพื่ออ่านหนังสือ
หรือทำงานในขณะที่มองดูภูเขาที่อยู่ไกลออกไป
เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ เมื่อได้ฟังเสียงลมพัดและเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว
นอกจากนี้ บริการนวดที่เราใช้บริการระหว่างเข้าพักก็ดีมาก
สามีของดิฉันเลือกนวดแผนไทย 2 ชั่วโมง และดิฉันเลือกนวดอโรมา 2 ชั่วโมง
การนวดในขณะที่ฟังเสียงนกร้องนั้นดีมากจริงๆ ค่ะ
ห้องนั่งเล่นและห้องนอนแยกจากกัน ห้องนอนสะดวกสบาย
และคุณสามารถเลือกหมอนได้ตามความต้องการ
เตียงของเรามีหมอนทั้งหมด 8 ใบ เพราะเราไม่ได้แจ้งไว้ล่วงหน้า
ตู้เสื้อผ้ามีขนาดใหญ่มาก ดิฉันจึงจัดของใส่กระเป๋าได้แบบไร้ปัญหาแม้ในช่วงที่เข้าพักระยะยาว
โต๊ะเครื่องแป้งก็กว้าง สามารถวางของและหยิบจับได้สะดวก
สามีของดิฉันก็เห็นด้วยว่าถึงแม้จะเป็นวิวภูเขา
แต่บรรยากาศของระเบียงก็คล้ายกับ Nang Gong Villa
ที่รีสอร์ท Garrya Tongsai Bay บนเกาะสมุยเลยค่ะ
เป็นอีกครั้งที่ดิฉันรู้สึกได้ว่าวิลล่าแบบเดี่ยว ความกว้างขวางของพื้นที่
และทิวทัศน์อันงดงามที่แผ่ออกไปไกลสุดตาช่วยให้ดิฉันผ่อนคลายได้มากจริงๆ
เวลาอยู่ที่บ้านดิฉันจะชอบช่วงเวลาที่ได้อาบน้ำ และแน่นอนว่าที่ Te Mata 360
ดิฉันได้ใช้ช่วงเวลาอาบน้ำอย่างมีความสุขและผ่อนคลายอย่างเต็มที่
ห้องน้ำสีขาวสะอาด
ท้องฟ้าสีครามจะอยู่ตรงหน้าคุณ ในขณะที่คุณแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ
แค่ดูนกและแมลงบินไปมาดิฉันก็ถึงกับลืมเวลาแล้ว
ข้างอ่างอาบน้ำจะมีเทียน เกลืออาบน้ำ และสครับอยู่เสมอ
ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ จนทำให้ดิฉันสามารถหลับไปพร้อมกับกลิ่นหอมนี้ได้เลย
ตอนแรกเราวางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติและละแวกใกล้เคียง
เพราะไหนๆ ก็มาไกลถึงเขาใหญ่แล้ว แต่ที่พักที่ Te Mata 360
ทำให้เรารู้สึกสะดวกสบายจนไม่อยากออกไปเสียเวลาข้างนอกเลย
อยากจะใช้เวลาทั้งหมดแค่ใน Glamp เท่านั้น
อาหารเย็นที่ Te Mata Glamping: รีวิวและไฮไลท์
ความพึงพอใจของเราทั้งหมดในการเข้าพักในครั้งนี้คือรสชาติของอาหารค่ะ
ถึงแม้ว่าเราจะพึงพอใจกับที่พักที่ Te Mata 360 มากก็จริง
แต่ที่จริงไปกว่านั้นคือรสชาติของอาหาร
ก่อนที่เราจะมาพักที่นี่ เราได้ค้นหาร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในละแวกนี้
แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจว่าไม่ออกไปข้างนอกดีกว่า
และเพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารที่ Te Mata 360
ดิฉันเป็นคนที่รับประทานอาหารเพียง 2 มื้อต่อวัน โดยจะไม่รับประทานอาหารเช้า
ปกติแล้วโรงแรมส่วนใหญ่จะเสิร์ฟอาหารเช้าเวลา 6.30 จนถึงเวลา 10.00
แต่ที่ Te Mata Glamping จะเสิร์ฟอาหารแบบรวมมื้อเช้ากับกลางวันเข้าด้วยกัน
ตั้งแต่เวลา 7.00 ถึงเวลา 11.00
ดิฉันจึงได้เพลิดเพลินกับอาหารมื้อสายได้อย่างเต็มที่
เนื่องจากที่ Te Mata Glamping ไม่มีบริการร้านอาหาร
คุณจึงต้องสั่งอาหารมารับประทานที่ Glamp ของคุณค่ะ
แม้ระเบียงจะหันไปทางทิศตะวันออกเลยกังวลว่าแดดจะแรง
แต่ก็เป็นอาหารเช้าที่แสนสบายเพราะได้ร่มเงาจากเต็นท์และมีลมพัดผ่าน
เรารับประทานอาหารเช้าอย่างผ่อนคลายพลางมองภูเขาที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้า
ยิ่งไปกว่านั้น อาหารยังเสิร์ฟแบบอุ่นๆ
และปรุงรสได้พอดี อร่อยมากค่ะ
ถ้าปรุงรสแบบเข้มข้น การปรับรสใหม่จะทำได้ยาก
ดังนั้นสำหรับดิฉันแล้ว รสอ่อนๆ ก็เป็นจุดเด่นด้วยเช่นกัน
มื้อเย็นของพวกเราก็รับประทานอาหารที่ Glamp
โดยมีทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง อร่อยมากเลยค่ะ
Glamp แต่ละที่จะมี Glamp Host ของตัวเอง
และเมื่อเราบอกว่าต้องการอาหารแบบใด เราก็จะได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน
สามีของฉันแพ้อาหารรสจัด แต่เขาชอบอาหารไทย จึงไม่ค่อยมีโอกาสได้ทานบ่อยนัก
สามีของดิฉันชอบข้าวผัดกะเพราไก่ แต่ปกติเขาจะไม่ทานเพราะมักจะมีรสเผ็ด
แม้ว่าเราจะสั่งแบบไม่เผ็ดแล้วก็ตาม
แต่ที่ Te Mata Glamping เราขอไปว่าอยากทานข้าวผัดกะเพราไก่แบบไม่เผ็ด
ก็ทำให้ได้ตามแบบที่ขอ เราจึงสนุกและเพลิดเพลินไปกับอาหารในแต่ละมื้อได้
เรายังทานชาบู-ชาบู ในขณะที่เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ของภูเขาที่ค่อยๆ
มืดลงเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน
เมื่อพระอาทิตย์ตก อากาศจะเย็นลงอย่างรวดเร็ว
ยิ่งอากาศเย็นสบาย เราทั้งคู่ยิ่งอร่อยกับการกินหม้อไฟกันจนพุงกางเลยค่ะ
คุณสามารถเลือกน้ำซุปได้ว่าต้องการซุปใส ซุปต้มยำ ฯลฯ
และสามารถเลือกเนื้อสัตว์ได้ว่าต้องการเนื้อหมู เนื้อวัว หรือทะเลก็ได้
แต่เราชอบทานผักเยอะๆ ตอนมื้อค่ำ
ที่ Te Mata Glamping ยังมีบาร์บีคิว ที่คุณจะเตรียมมาเองหรือจะขอให้ทางที่พักเตรียมให้ก็ได้
ดิฉันคิดว่าคราวหน้าก็อยากจะสนุกไปกับการทานบาร์บีคิวดูบ้างค่ะ
นอกจากนี้เรายังได้เพลิดเพลินไปกับการย่างมาร์ชเมลโลว์บนกองไฟหลังอาหารเย็น
แคมป์ไฟเป็นกิจกรรมหลักในวันหยุดฤดูร้อนของโรงเรียนประถมในญี่ปุ่น
ดิฉันจึงคิดถึงช่วงเวลานั้นมาก
การย่างมาร์ชเมลโลว์บนกองไฟจะให้กลิ่นหอมอ่อนๆ
และเพียงไม่กี่วินาทีก็ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่และตกอยู่ในภวังค์
เมื่อมาร์ชเมลโลว์เข้าปาก จะได้รสสัมผัสนุ่มๆ และหวานจนไม่อาจอธิบายได้
ในระหว่างการเข้าพัก เราไม่เคยออกจาก Te Mata 360 เลย
เพราะรู้สึกพึงพอใจกับอาหารเลิศรสและเป็นการพักที่สมบูรณ์แบบ
จุดเด่นและจุดด้อยของ Te Mata Glamping: คำแนะนำและข้อควรพิจารณา
คำแนะนำที่สำคัญสำหรับ Te Mata Glamping
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเข้าพักที่ Te Mata Glamping: ข้อด้อยที่อาจเกิดขึ้น
การพักผ่อนอย่างเต็มที่ที่ Te Mata Glamping เขาใหญ่
วันนี้ดิฉันได้มีโอกาสรีวิว Te Mata Glamping ที่เขาใหญ่
เขาใหญ่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยี่ยมชมอีกมากมาย
แต่ Te Mata 360 นั้นสะดวกสบายมากจนเราไม่อยากออกไปไหน
และไม่ได้ทำกิจกรรมอย่างอื่นเลย
ครั้งนี้เรามาพักในช่วงฤดูฝน (ปลายเดือนกรกฎาคม)
แต่เราอยากกลับมาอีกครั้งในช่วงฤดูหนาว (ตั้งแต่พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์)
เมื่อความหนาวเย็นมาเยือน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Te Mata Glamping
ที่ตั้ง：97 หมู่ 6 ตำบล หนองน้ำแดง อำเภอ ปากช่อง จังหวัด นครราชสีมา 30130
กรุณาแสดงความคิดเห็นหากคุณชอบบทความนี้