Cagette Canteen & Deli – รีวิวร้านอาหารฝรั่งเศสที่อร่อยย่านสาทร!

รีวิว Brunch ละตินอเมริกาที่ Kimpton Maa-Lai Bangkok: สัมผัสรสชาติแท้ที่ Stock.Room

สวัสดีค่ะทุกคน

ชิฟูมิ มายด้า ผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชมบล็อก

“รีวิวจริงจากผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นะคะ

รีวิวในรอบนี้ดิฉันไม่ได้ไปทานด้วยตัวเองเพราะว่าส่วนตัวแล้วไม่ค่อยถนัดทานอาหารแบบ All-You-Can-Eat

เลยจะนำบทความรีวิวของคุณ A ที่ชื่นชอบการทานอาหารแบบ All You Can Eat มาแชร์ให้ทุกท่านทราบค่ะ

ไปเริ่มกันได้เลยค่ะ

สวัสดีค่ะทุกคน

วันนี้ดิฉันมีโอกาสได้ไปรับประทานอาหาร Sunday Bunch ที่ห้องอาหาร Stock.Room ชั้น 5

ที่ตั้งอยู่ในโรงแรม Kimpton Maa-Lai Bangkok ค่ะ

โดย Sunday Bunch ของวันนี้จะมาในธีมของ

บรันช์บุฟเฟ่ต์สไตล์ละติน El Sabor de Kimpton Brunch

นำเสนอเมนูอาหารจากหลากหลายชาติ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อย่างสไตล์อาร์เจนตินา

อาหารเปรูเวียนผสานนิเคอิ เม็กซิกัน คาริบเบียน และอีกมากมาย

ที่ Kimpton Maa-Lai Bangkok เราสนับสนุนบุคคลในแง่มุมต่าง ๆ

ไม่ว่าจะเป็นความสนใจ และความชอบ หรือการค้นพบรากศาสตร์และวัฒนธรรมของตนเอง

โรงแรมระดับหรู Luxury Lifestyle Langsuan Hotel

ไม่เพียงแค่สนับสนุนแนวคิดเหล่านี้ แต่ยังเป็นที่ยอมรับอย่างสมบูรณ์

El Sabor de Kimpton Brunch สามารถใช้บริการในวันอาทิตย์แรกของเดือน

เวลา 12:00 น. – 15:00 น. โดยสามารถรับลูกค้าได้ทั้งสิ้น 150 ที่นั่ง

ผู้เข้าร่วมสามารถเลือกจากแพ็คเกจต่าง ๆ ได้ดังนี้:

✤ 2,500 บาท++ ต่อคนสำหรับผู้ใหญ่ รวมอาหารไม่จำกัดและเครื่องดื่มซอฟท์ดริงก์

✤ 3,500 บาท++ ต่อคนสำหรับผู้ใหญ่ รวมอาหารไม่จำกัด เครื่องดื่มซอฟท์ดริงก์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

✤ 1,250 บาท++ ต่อเด็กที่อายุไม่เกิน 12 ปี รวมอาหารไม่จำกัดและเครื่องดื่มซอฟท์ดริงก์

Contents

Kimpton Maa-Lai Bangkok: ความอบอุ่นในการต้อนรับที่กรุงเทพฯ

Kimpton Maa-Lai Bangkok: ภาพรวมและทำเลใจกลางเมือง

Kimpton Maa-Lai Bangkok เป็นโรงแรมในเครือ Kimpton Hotels & Restaurants

ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมบูทีคที่ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1981 ที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา

ปัจจุบันนี้ Kimpton มีโรงแรมในเครือมากกว่า 60 แห่ง รวมถึงร้านอาหาร บาร์ และเลานจ์กว่า 80 แห่ง

และมีแผนจะเปิดตัวในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทั้งประเทศทางฝั่งยุโรป แคริบเบียน และจีน

เครือ Kimpton มีรายชื่อติดอยู่ในการจัดอันดับ

“100 บริษัทที่น่าร่วมงานที่สุด” ของนิตยสาร FORTUNE

และได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโรงแรม Intercontinental Hotels Group (IHG)

ในเดือนมกราคม 2558 ที่ผ่านมา

ซึ่งตัวโรงแรม Kimpton Maa-Lai Bangkok เองก็ถือว่าเป็น

โรงแรมแบรนด์ Kimpton Hotels & Restaurants แห่งแรกในประเทศไทย

และแห่งแรกในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่เพิ่งเปิดตัวในไทยเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมานี้เอง

คอนเซปต์และดีไซน์ของ Kimpton Maa-Lai Bangkok

คำว่า MAA-LAI (มาลัย) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคำว่า “ละเมียด” ตามวิถีแบบไทยที่เชื่อมเข้ากับงานศิลปะ

เช่นเดียวกับการกรองมาลัยที่ต้องอาศัยทักษะและความสร้างสรรค์

จนเกิดมาเป็น “มาลัย” ที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของความละเมียดละไม

ทุกพื้นที่ของ Kimpton จะได้รับการเอาใจใส่อย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด

เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของโรงแรมที่ให้ความสำคัญต่อประสบการณ์อันยอดเยี่ยมของผู้เข้าพักนั่นเองค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกหรูหราที่ Kimpton Maa-Lai Bangkok

ที่ Kimpton Maa-Lai Bangkok มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

ไว้พร้อมรองรับความต้องการของแขกที่มาใช้บริการ

ตั้งแต่ปาร์ตี้เก๋ๆ บาร์ เลานจ์ ร้านอาหาร คาเฟ่ สปา สระว่ายน้ำ ยิม รวมไปถึงชุดน้ำชายามบ่าย

แถมที่นี่ยังเป็น Pet-friendly Hotel ที่พร้อมต้อนรับสัตว์เลี้ยงของแขกทุกคน!

ร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มีให้เลือกหลากหลาย กระจายอยู่ทั่วโรงแรม

– CRAFT คอมมิวนิตี้ซึ่งเป็นศูนย์รวมของคอกาแฟ ค็อกเทล คราฟท์เบียร์ บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม

มีทั้งที่นั่ง Indoor และ Outdoor มาพร้อมวิวสวนสวยท่ามกลางธรรมชาติของโรงแรม

– Ms.Jigger บาร์ค็อกเทลและร้านอาหารอิตาลี ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นสุดชิคที่ชั้น L ของโรงแรม

– Stock.Room ห้องอาหารที่มาในคอนเซปต์ Grocerant จากการรวมกันของ Grocery และ Restaurant

อยู่ที่ชั้น 5 ของโรงแรม เลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่และหลากหลายส่งตรงจากไร่ถึงห้องครัว

– Bar.Yard บาร์บนรูฟท็อปลอยฟ้า ตั้งอยู่บนลานดาดฟ้าชั้น 40 ของโรงแรม

นอกจากร้านอาหารยังมีสปา ยิม สระว่ายน้ำให้พักผ่อนหย่อนใจได้ตามอัธยาศัยอีกต่างหาก

สามารถอ่าน [รีวิว] Afternoon Tea – จิบชาในบรรยากาศห้องสมุดบนชั้น 30 @Kimpton Maa-Lai Bangkok: วิวกรุงเทพแบบ 360 องศา!

รีวิว El Sabor de Kimpton Brunch: บุฟเฟ่ต์ละตินอเมริกาที่ Stock.Room

ออกมาจากลิฟต์จะเจอป้ายชื่อห้องอาหาร Strock.Room

บริเวณทางเข้ามีการจัดเรียงดอกไม้นานาชนิด และตะบองเพชร ที่แสดงถึงความเป็นทวีปอเมริกาใต้

เมื่อเดินเข้าไปทางด้านในแล้ว ให้ความรู้สึกอบอุ่น สนุกสนาบ บรรยากาศครึ้งเครง

ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะพบบรรยากาศเหล่านี้ได้ ที่ใจกลางกรุงเทพค่ะ

เมื่อเดินทางถึงที่โต๊ะอาหารจะพบกับเมนู a la carte ที่สามารถสั่งได้ตลอดเวลาเลยค่ะ

ด้านหน้าจะเป็นเมนูอาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่

ส่วนด้านหลังจะเป็นเมนูเครื่องดื่มที่เป็น เครื่องดื่มซอฟท์ดริงก์

และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถสั่งได้ตลอดทั้งสามชั่วโมงนี้เลยค่ะ

เมนู a la carte ที่ดิฉันเลือกสั่งไปนั้นมี 4 อย่าง แต่มาแค่ 2 อย่างค่ะ

เมนูนี้เป็นเมนูในหมวดของ เนื้อย่างสไตล์อาร์เจนตินา

ที่มีชื่อว่า Asados Argentinos fillete de falde

ที่เป็นเนื้อสเต็กวากิวนำไปย่างด้วยไฟอ่อนๆ และหั่นมาเป็นแบบลูกเต๋า

ตัวเนื้อมีความเป็น Medium Rare มีความเป็นสีชมพูตรงกลาง

เมื่อกัดเข้าไปแล้วดิฉันบอกเลยว่าเนื้อนุ่มมาก ได้รับรสชาติของเนื้อเต็มๆ

เมนูนี้เสริฟพร้อมกับซอส Chimichurri เป็นซอสของคนอเมริกาใต้

ทำจากพาร์สเลย์สับ กระเทียม น้ำมันมะกอก ผสมปรุงรสกับออริกาโน

และน้ำส้มไวน์แดงเล็กน้อยเพื่อตัดเลี่ยน อร่อยลงตัวสุดๆไปเลยค่ะ

เมนูถัดมาจะเป็น Langosta Al Pastor ที่นำล็อบสเตอร์สดทั้งตัวย่างอย่างช้าๆ

เสิร์ฟพร้อมพริกเม็กซิกันแห้งรมควัน แอนโช่ พริกกวาจิลโลโมริตะ ซัลซ่าเนกรา

สับปะรดย่างรมควัน และแผ่นแป้งตอร์ติญ่า ดิฉันชอบเมนูนี้มากที่สุดเลยค่ะ

เพราะได้รับรสชาติของความเป็นเครื่องเทศของเม็กซิกันเต็มๆ เนื้อล็อบเตอร์นุ่มมาก

และตัดเลี่ยนตัวสับปะรด อร่อยลงตัวสุดๆเลยค่ะ

เสียดายที่เมนูอื่นๆดิฉันไม่ได้ลองชิมเพราะใช้เวลานานถ้ามีโอกาสอีกครั้ง

รับรองว่าดิฉันจะทานให้หมดทุกเมนูในหน้ากระดาษเลยค่ะ

ต่อไปดิฉันขอพาทุกท่านไปพบกับเมนูต่างๆ ที่ทางโรงแรมเตรียมไว้

ให้รับประทานนอกเหนือจากเมนู a la carte ทานด้านบนค่ะ

ดิฉันขอบอกเลยว่าเมนูที่สามารถตักเองได้นั้นเยอะมาก ตั้งแต่

อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารคาว อาหารหวาน อาหารเบเกอรี่

เครื่องดื่มซอฟท์ดริงก์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จุใจมากๆ สมราคาจริงๆค่ะ

อาหารของที่นี้จะมีทั้งหมด 5 โซนค่ะ

ดิฉันจะพาทุกท่านไปที่โซนแรก คือ ARGENTINE ASADO

การรับประทานเนื้อสัตว์เป็นวิถีชีวิตในอาร์เจนตินา

ประเทศนี้มีประเพณีอันยาวนานในการเป็นเมืองหลวงแห่งเนื้อสัตว์แห่งหนึ่งของโลก

และมีชื่อเสียงเป็นพิเศษในด้านเนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าคุณภาพสูง

ด้วยกลิ่นอันน่าหลงใหลของเนื้อย่างช้าๆ จากพาร์ริลลา (ย่าง) คู่กับซอสชิมิชูรีสมุนไพร

อาซาโด การปรุงอาหารแบบเปิดไฟสไตล์อาร์เจนตินาจึงถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการย่างที่น่าทึ่งที่สุดในโลก

โซนนี้จะเป็นโซนเนื้อย่างสไตล์อาเจนติน่าค่ะ

เมนูนี้คือ Salmon A Laparilla เป็นปลาแซลมอนครึ่งตัวนำไปอบพร้อมเครื่องเทศ

ต่อมาทางด้านนี้จะมี เนื้อขาแกะย่าง เนื้อวัวย่าง ซีฟู้ดย่าง ผักย่างชนิดต่างๆ ดิฉันชอบมากเลยค่ะ

โซนนี้จะเป็นครัวที่ไว้เสริฟเมนู a la carte นะคะ

โซนถัดมาคือโซน ITALO-ARGENTINO

อาหารอาร์เจนตินาเป็นส่วนผสมที่สวยงามของวัฒนธรรม

ด้วยความเคลื่อนไหวมากมายที่เกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์

หนึ่งในการเคลื่อนไหวที่โดดเด่นที่สุดคือการย้ายถิ่นฐานของชาวอิตาลีจำนวนมาก

เมื่อต้นศตวรรษที่ 20 ในเวลานี้ อาหารอิตาเลียนเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาหารหลักของอาร์เจนตินา

แป้งราวิโอลีไส้เนื้อสับ กับ ราวิโอลีไส้ผักโขม
Pizza Fugazetta

จะประกอบไปด้วยราวิโอลี พิซซ่า พัฟ และขนมปังอบ

โซนถัดมาคือโซน PERUVIAN-JAPANESE “NIKKEI”

ในด้านการทำอาหาร เปรูคือแหล่งรวมอาหารและรสชาติที่คุณไม่สามารถหาได้จากที่อื่น

โดยนำเสนอวัตถุดิบพื้นเมืองที่หลากหลาย ควบคู่ไปกับเทคนิคการทำอาหารจากทั่วทุกมุมโลก

อาหาร Nikkei เป็นการสังเคราะห์ที่กลมกลืนกันระหว่างประเพณีการทำอาหารของเปรูและญี่ปุ่น

มันใส่ความละเอียดอ่อนและจินตนาการของประเพณีการทำอาหารญี่ปุ่นเข้า

กับรสชาติที่เข้มข้น มีชีวิตชีวา และเผ็ดร้อนของเปรู

อาหารมีความสด อร่อย รสชาติดี และไม่มีกลิ่นคาวเลยค่ะ

เหมือนไปกินที่ประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ

ระหว่างที่เราเลือกชมเมนูอาหารละลานตา ก็มีเสียงเพลงเพราะๆ ตลอดการรับประทานอาหารเลยค่ะ

ดิฉันประทับใจสุดๆเลยค่ะ

ถัดมาจะเป็นโซน CARIBBEAN

อาหารมีสีสัน หลากหลาย และมักได้รับอิทธิพลจากยุโรป อินเดีย และอเมริกาใต้

ครอบคลุมหลายประเทศที่เป็นเกาะในภูมิภาคแคริบเบียนอันงดงาม

แต่อาหารแคริบเบียนก็มีเฉพาะในท้องถิ่นเช่นกัน ซึ่งประกอบด้วยวัตถุดิบที่ปลูกหรือเก็บเกี่ยวได้ทั่วเกาะ

เหมือนยกทะเลมาไว้ที่ห้องอาหารเลยค่ะ

อาหารทะเล ประกอบไปด้วย หอยนางรม หอยแมลงภู่ กั้ง กุ้งแช่บ๊วย กุ้งแม่น้ำ กุ้งขาว

หอยลาย ปู และปลา เสริฟพร้อมกับน้ำจิ้มรสเด็ด เป็นโซนที่ดิฉันชื่นชอบมากๆค่ะ

โซนอาหารไทย ที่เป็นประเภทยำก็ไม่น้อยหน้านะคะ

ให้เลือกหลากหลาย พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ห้ามพลาดกันเลยค่ะ

ถัดมาในโซนสุดท้ายจะเป็น โซน MEXICAN

ในพื้นที่ของ México คุณจะพบร้านอาหารหรูหราที่สุดในโลก

และอาหารเม็กซิกันก็เป็นหนึ่งในอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

อาหารเม็กซิกันนั้นเป็นผลสรุปจากเทคนิคโบราณ และการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบในท้องถิ่น

และส่วนผสมจากยุโรป มันมีรสชาติที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์

มีความสดใสและรสชาติที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับรูปแบบและสูตรอาหารต่างๆ

อาหารเม็กซิกันมีความหลากหลายทั้งในระดับความซับซ้อนและความเรียบง่าย

และมักมีความสวยงามในการเสิร์ฟด้วย

รูปทางด้านบน จะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยของทางเม็กซิกันค่ะ

อาหารเม็กซิกันมีให้เลือกหลากหลายมากเลยค่ะ ทั้งแบบที่เคยเห็นในทีวี และไม่เคยเห็นมาก่อนเลยค่ะ

แต่ดิฉันขอการันตีเลยว่าอาหารเม็กซิกันของที่นี่เด็ดมากๆค่ะ

ตอนนี้ก็อยากกลับไปกินอีกแล้ว แต่ต้องรอเดือนหน้าเลยค่ะ

เพราะว่าเค้าจะจัดแค่เดือนละครั้งคือ วันอาทิตย์ต้นเดือนค่ะ

ต่อไปดิฉันจะพาทุกท่านไปพบกับโซนขนมหวานค่ะ

ขนมหวานที่นี่บอกเลยว่า ละลานตา เหมือนได้อยู่ในบ้านขนมหวานเลยค่ะ

มีห้องช็อคโกแลต มีโซนไอศกรีม ซูโรส และเครป ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

ต่อไปดิฉันจะแนะนำโซนเครื่องดื่มที่ทุกท่านอย่ามองข้ามเลยค่ะ

เครื่องดื่มของที่นี่จะมีทั้งเครื่องดื่มซอฟท์ดริงก์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มซอฟท์ดริงก์ จะเป็นเป็นพวกน้ำผลไม้ น้ำอัดลม น้ำชาหมัก และโซดานะคะ

แต่ที่ดิฉันอยากแนะนำจริงๆคือโซนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ดิฉันไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์มานานแล้วค่ะ

แต่ครั้งนี้เป็นกรณียกเว้น ไม่ดื่มคงจะเสียใจตลอดชีวิตเลยค่ะ

ไปที่บาร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันเลยดีกว่าค่ะ

บาร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของที่นี่จะมีหลายประเภท ทั้ง Class Latin Cocktail & Signature,

Wine, Boozy Slushie, Draft Beer, Bottle Beer

และเครื่องดื่มดับกระหายด้วยวิธีละตินด้วย Corona, Jose Cuervo โดยคุณซูซาน,

และ Botanist Islay Dry Gin โดยคุณเค้ก

ต่อไปจะเป็นเมนูที่ดิฉันเลือกมารับประทานนะคะ

เนื่องจากอาหารมีเยอะมากดิฉันไม่สามารถรับประทานทุกอย่างได้

แม้จะเสียดายมากจริงๆ ที่ความจุของกระเพาะดิฉันมันไม่สามารถบรรจุได้ทั้งหมด

แต่ดิฉันก็อยากจะแนะนำรสชาติในเมนูที่ดิฉันเลือกรับประทานค่ะ

เราจะเปิดต่อมรับรสของเราด้วย เมนู Chilpachole miriscos Mexican sea food Soup นะคะ

เป็นซุปที่รับประทานแล้ว ได้กลิ่นของความเป็นอาหารทะเลชัดเจน คิดว่าเค้าจะนำเปลือกของกุ้ง

มาต้มเป็นน้ำสต๊อก ให้รสชาติที่เข้มข้น อร่อยลงตัว

จานนี้จะเป็นทาโก้หมูย่าง กินกับ แป้งนาโช่กรุบกรอบ กัวคาโมเล่ และซอสรสเปรี้ยว

เมนูนี้เป็นราวิโอลีสอดไส้เนื้อสับ ทานคู่กับซอสมะเขือเทศ และซอสเพรโต้ ตกแต่งด้วยใบโหระพา

ตัวแป้งมีความเป็น al dente ไส้เนื้อด้านในมีความหอมและได้รสชาติของเนื้อชัดเจน

ตัดกับซอสมะเขือเทศมีที่ความเปรี้ยว เป็นรสชาติที่สดชื่นมากๆค่ะ

เมนูนี้คือพิซซ่า Fugazetta กับพัฟแฮมชีส และพัฟเนื้อสับ

แป้งพิซซ่าอร่อยมากเป็นแป้งแบบโฮมเมด ส่วนตัวหน้าพิซซ่าจะเป็นชีสกับหอมใหญ่

มีความหวาน มัน หอม ต่อมาจะเป็นพัฟ ตัวแป้งด้านนอกมีความกรอบ

เข้ากับไส้ที่ชุ่มช่ำด้านใน อร่อยไม่เบื่อเลยค่ะ

ซีฟู้ดของที่นี่มีความสดมากค่ะ รับประทานจนหมดไม่รู้เบื่อเลยค่ะ

ในส่วนของเนื้อย่างต่างๆสไตล์อาเจนติน่านั้น ดิฉันประทับใจสุดๆเลยค่ะ

ปกติจะคิดว่าพอย่างแล้วเนื้อที่ชิ้นใหญ่ขนาดนี้ต้องเหนียว แต่มันนุ่มละลายมากค่ะ

เนื้อแกะไม่เหม็นสาบเลยค่ะ ปลาหมึกก็ชุ่มช่ำ กุ้งก็ยังคงความสดหวานค่ะ

เมนูในส่วนของอาหารญี่ปุ่นก็พลาดไม่ได้เลยนะคะ แซลมอนซาซิมิ สดมากเนื้อหวาน และชิ้นใหญ่

และพวกซูชิ นิกิริ ก็อร่องลงตัว กินแล้วรู้สึกถึงเวลาไปกินที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ

ท้องดิฉันกินอาหารคาวไม่ไหวแล้วค่ะ เราจึงเปลี่ยนรสชาติไปกินของหวานแทน

เริ่มจากขนมอบประเภท เบเกอรี่

ดิฉันเลือกมา 3 อย่างค่ะ

เป็น ครอฟเฟิลชอคโกแลต ครัวซองต์ราสเบอร์รี่ และเดนิส แมคคาเดเมีย

ครอฟเฟิลมีความกรุบกรอบ หอมกลิ่นเนย และชอคโกแลตที่ราดมาตัดรสชาติอร่อยดีค่ะ

ครัวซองต์ราสเบอร์รี่ ตัวแป้งกรอบร่วน ไส้ครีมราสเบอร์รี่หวานอมเปรี้ยว อร่อยจนลืมไม่ลง

ส่วนเดนิส แมคคาเดเมีย ด้านในมีลูกเกดแทรกตามชั้นวงของตัวแป้งตัดรสเปรี้ยวกับคาราเมล

ที่ราดมาพร้อมเสริฟความกรุบกรอบด้วยแมคคาเดเมีย

ต่อไปเป็นเมนูขนมหวานและชอคโกแลตค่ะ

เรื่องขนมหวานตัวดิฉันชื่นชอบที่นี่เป็นพิเศษอยู่แล้ว เนื่องจากเคยมารับประทาน อาฟเตอร์นูนที

ที่นี่ก่อนหน้านี้แล้ว พานาคอตต้ารอบนี้เป็นรสเชอร์รี่ค่ะ หอมกลิ่นเชอร์รี่จากเจลลี่เชอร์รี่ด้านบน

ตัวเนื้อพานาคอตต้ามีความหวานของครีม มีอร่อยชาติอร่อยเฉพาะตัวมากๆค่ะ

มาการองที่เลือกมีมีรสชอคโกแลต ได้รสสัมผัสของชอคโกแลตเข้มข้น

ถัดมาเป็นรสเลม่อน เปรี้ยวหวานลงตัว ชูโรสของที่นี่ก็ขึ้นชื่อนะคะ เพราะทอดใหม่ๆ

ได้ความกรอบ เมื่อดิปกับซอสวนิลา กับชอคโกแลตบอกเลยว่า ลืมไม่ลง

ชอคโกแลตที่นี่จะมีบาร์แยกค่ะ เหมือนได้เข้าไปในโรงงานชอคโกแลตเลยค่ะ

ถัดมาเป็นไอศครีม ดิฉันเลือกไอศกรีมแบบตักคือรส บลูเบอร์รี่โยเกริต

ที่ดิฉันประทับใจสุดๆ คือไอศครีมแบบแท่งค่ะ ไอศกรีมชนิดนี้มีชื่อว่า Chupaletas

คือไอศครีมโฮมเมดสไตล์เม็กซิกัน ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์

ที่เลือกมา สีแดงเป็นรสสตอเบอรี่ ส่วนสีส้ม เป็นรสส้มค่ะ

ดิฉันเบิ้ลสตอเบอรี่ไป 2 อันเลยค่ะ กินแล้วสดชื่อ อร่อยมาก

สมกับคำว่า Less is More ประทับใจสุดๆเลยค่ะ

ต่อไปดิฉันขอแนะนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เมนูนี้มีชื่อว่า Coronarita มีส่วนผสมของ Corona, tequila, lime และ Margarita Slushie

เมื่อดื่มแล้วได้รสชาติของ เตกีล่า และเบียร์ ตัวนี้ดิฉันว่าแรงมาก กินหมดแก้วอาจจะหลับได้

ต่อไปเป็นเมนูที่ชื่อว่า The Botanist Gin & Tonic

เป็นส่วนผสมของ The Botanist Islay Dry Gin กับ Fever Tree Premium Tonic กับ Soda

เพิ่มความสวยงามด้วยโรสเมรี่ และเลมอน แก้วนี้กินง่ายชิลๆค่ะ ส่วนตัวชอบแก้วนี้มากกว่า

จุดเด่นและข้อจำกัดของบรันช์ที่ Kimpton Maa-Lai Bangkok

จุดเด่นของบรันช์

บรรยากาศครึกครื้น สดใส รู้สึกสนุกสนานตลอดเวลา เหมือนอยู่ในอเมริกาใต้

มีอาหารให้เลือกหลากหลายสไตล์

มีขนมอบ ขนมหวาน และช็อคโกแลตให้เลือกหลายชนิด

มีเครื่องดื่มที่น่าสนใจ และตื่นตาตื่นใจ

รสชาติอาหารและเครื่องดื่ม ดีมาก ประทับใจมากๆ

พนักงานมีใจรักในการบริการ

รู้สึกถึงความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา

ข้อจำกัดของบรันช์

มีอาหารให้เลือกหลากหลาย หากรับประทานให้ครบทุกอย่างจะเป็นไปได้ยาก

ด้วยความที่โรงแรมตั้งอยู่กลางเมืองและไม่ได้ติดถนนใหญ่ คนที่ไม่มีรถยนต์อาจเดินทางลำบากหน่อย แต่ก็มี BTS อยู่ใกล้ๆ ซึ่งต้องนั่งวินมอเตอไซค์ต่อเข้ามา

สรุป El Sabor de Kimpton Brunch: บุฟเฟ่ต์ละตินอเมริกา

จบกันไปแล้วนะคะสำหรับ รีวิว บรันช์บุฟเฟ่ต์สไตล์ละติน

El Sabor de Kimpton Brunch ที่ห้องอาหาร Stock.Room

ทุกท่านอ่านแล้วรู้สึกยังไงบ้างคะ อยากไปรับประทานกันบ้างรึยังเอ่ย

หากท่านใดสนใจไปรับประทาน จะต้องจองล่วงหน้านะคะ เพราะว่า

‘El Sabor de Kimpton Brunch’ เสิร์ฟทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน

ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 15.00 น. และมีแพ็คเกจให้เลือกดังนี้

💰2,500++ บาท ต่อผู้ใหญ่หนึ่งคน รวมอาหารและเครื่องดื่มไม่จำกัด

💰3,500++ บาท ต่อผู้ใหญ่หนึ่งคน รวมอาหาร ซอฟท์ดริ้งค์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่จำกัด

👶🏻1,250++ บาทต่อเด็กอายุไม่เกิน 12 หนึ่งคน รวมอาหารและซอฟท์ดริ้งค์ไม่จำกัด

ไม่เพียงเท่านั้น พบกับบรรยากาศครึกครื้น

จากเสียงเพลง ดนตรีสดสไตล์ละติน และการแสดงสุดพิเศษมากมาย

ข้อมูลรายละเอียดของ Kimpton Maa-Lai Bangkok

ที่ตั้ง: 78 ซอยต้นสน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 (ใกล้ BTS ชิดลม)

แผนที่:

この記事が気に入ったら
フォローしてね!

よかったらシェアしてね!
  • URLをコピーしました!
  • URLをコピーしました!

กรุณาแสดงความคิดเห็นหากคุณชอบบทความนี้

コメントする

Contents