รีวิว Omakase ที่กรุงเทพ: ทำไม Kappo Yume ของเชฟ Naoki Hayakawa คือความลับของอาหารญี่ปุ่นที่ยอดเยี่ยม?

วันนี้ดิฉันจะมาพูดถึงร้าน Kappo Yume

ที่เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2023 ค่ะ

ในกรุงเทพฯ มีร้านอาหารญี่ปุ่นมากมาย

ตั้งแต่ร้านอาหารระดับไฮเอนด์ไปจนถึงร้านอาหารที่เข้าถึงได้ง่าย

ในขณะที่ Kappo Yume ก็เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ใหม่

ที่เสิร์ฟโอมากาเสะแบบ kappo โดยเฉพาะ

มนต์เสน่ห์แห่ง Omakase ที่ Kappo Yume กรุงเทพ

Kappo ซึ่งเป็นร้านอาหารสไตล์โอมากาเสะแห่งนี้เป็นของคุณ Naoki Hayakawa

ซึ่งเป็นอดีตเชฟประจำทำเนียบเอกอัครราชทูต หลังจากฝึกฝนตัวเองมาเป็นเวลา 10 ปี

ที่ร้าน Kitcho Head Restaurant ในโตเกียว เขาได้ทำงานเป็น ‘นักการทูตด้านอาหาร’

ในประเทศฝรั่งเศส ยูเครน กรุงเทพฯ ฮ่องกง และสวิตเซอร์แลนด์

โดยการทำอาหารญี่ปุ่นและการสร้างรอยยิ้มพร้อมทั้งให้ความรู้ด้านวัฒนธรรมแก่ผู้คนผ่านอาหารญี่ปุ่น

ร้านตั้งอยู่ในตรอกที่เงียบสงบใกล้โรงพยาบาลคาเมเรียนในซอยสุขุมวิท 55 (หรือที่เรียกว่าซอยทองหล่อ)

อยู่ใกล้ๆ กับถนนเพชรบุรีเลยค่ะ

เบื้องหลังชื่อ ‘Kappo Yume’: แรงบันดาลใจของเชฟ Naoki Hayakawa

ชื่อของร้านนี้คือ Yume (ซึ่งแปลว่าความฝัน)

ดิฉันจึงสอบถามเชฟ Hayakawa เกี่ยวกับแนวคิดซึ่งเป็นที่มาของชื่อนี้

ตอนที่ดิฉันถามเชฟ Hayakawa ว่าชื่อร้านมีที่มาอย่างไร

เขาเขียนลงไปในกระดาษด้วยลายมือของเขาเองเลยค่ะ

แม้ว่าหลายคนจะใช้ชื่อของตัวเองเป็นชื่อร้าน แต่ Kappo Yume

ก็เป็นชื่อที่เปี่ยมไปด้วยแนวคิดของเชฟ Hayakawa

ซึ่งคุณจะได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารแสนอร่อยค่ะ

สไตล์ Kappo: ศิลปะและปรัชญาของ Omakase ที่ Kappo Yume

Kappo หมายถึง “การหั่น” และ “การต้ม” วัตถุดิบปรุงอาหาร

ซึ่งแสดงถึงวิธีปรุงอาหารญี่ปุ่น และหมายถึงร้านอาหารที่นำเสนออาหารต่างๆ ด้วยวิธีปรุงในลักษณะนี้

โดยจะมีการปรุงอาหารต่อหน้าคุณที่อีกด้านหนึ่งของเคาน์เตอร์

เพื่อให้คุณมองเห็นอาหารที่กำลังจัดเตรียมและเสิร์ฟเมื่อปรุงเสร็จ

ร้านอาหารบางแห่งจะมีเพียงเคาน์เตอร์ บางร้านก็มีที่นั่งแบบโต๊ะด้วย

แต่รวมแล้วจำนวนที่นั่งทั้งหมดก็ประมาณ 10 ที่นั่ง ซึ่งถือว่าไม่เยอะ

อาหารจะเสิร์ฟเป็นจานเดี่ยวโดยขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในวันนั้นๆ

ตามความชอบและความต้องการของลูกค้า

เหมือนเป็นการทดสอบฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของเชฟ

ทัวร์ภายใน Kappo Yume: การตกแต่งและอ atmosphere ที่เป็นเอกลักษณ์

เมื่อเดินผ่านโนเร็น (ม่าน) ที่สวยงาม คุณจะเห็นเคาน์เตอร์ขนาด 10 ที่นั่งและห้องครัว

ร้านอาหารจะมีพื้นที่ใช้สอยแบบอเนกประสงค์ เรียบง่าย และสะอาด ตามแบบฉบับของร้านอาหาร Kappo

ห้องอาหารที่สะอาดตา ไม่มีสิ่งของที่ดูฟุ่มเฟือย ถือเป็นตัวอย่างของความงามแบบญี่ปุ่น

และนอกจากที่นั่งเคาน์เตอร์ ยังมีห้องส่วนตัวด้วยค่ะ

ข้อดีของที่นั่งแบบเคาน์เตอร์คือคุณสามารถดูเชฟเตรียมอาหารตรงหน้าคุณได้เลย

เป็นช่วงเวลาแห่งความพิถีพิถันในการดูอาหารที่คุณกำลังจะรับประทานซึ่งกำลังจัดเตรียมอยู่ตรงหน้า

รีวิวจากประสบการณ์จริง: การรับประทาน Omakase ที่ Kappo Yume กรุงเทพ

สำรวจ Omakase สุดเอกลักษณ์ของเชฟ Naoki Hayakawa ที่ Kappo Yume

เมนูนี้เป็นโอมากาเสะเท่านั้นโดยจะมีอาหาร 12 ถึง 15 รายการ

คอร์สโอมากาเสะมีสองประเภท คือ คอร์สโอมากาเสะปกติ (4,800 บาท++)

และคอร์สโอมากาเสะพิเศษ (7,200 บาท++)

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (1,800 บาท++)

และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (850 บาท ++) เสิร์ฟคู่กับอาหาร

นอกจากนี้ยังมีสาเกที่แตกต่างกันอีก 4 ชุดให้เปรียบเทียบกัน (800 บาท++)

เมนูจะเปลี่ยนทุกๆ สองเดือน โดยเชฟ Hayakawa จะใช้ความคิดสร้างสรรค์

ในการจัดเตรียมอาหารอันหลากหลายไว้ตรงหน้าคุณตามวัตถุดิบที่มีในวันนั้น

เนื่องจากเพิ่งมาเป็นครั้งแรก ดิฉันจึงสั่ง “Omakase Course” แบบมาตรฐาน (4,800 บาท++)

เมนูนี้แสดงรายการส่วนผสม แต่ไม่ใช่รายละเอียดวิธีการปรุงหรือรสชาตินะคะ

แม้กระทั่งก่อนที่อาหารจะเสิร์ฟ จินตนาการของดิฉันก็ยังโลดแล่นไปไกล

ในภาพอาจจะดูยากหน่อย แต่ปริมาณของอาหารแต่ละจานจะไม่มาก

อาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารที่สามารถเพลิดเพลินด้วยตาได้เช่นกัน

และความสวยงามของอาหารก็น่าทึ่งมาก

อาหารตะวันตกมักจะมีลักษณะการจัดวางแบบกลมและสมดุล

แต่ความสวยงามของอาหารญี่ปุ่นอยู่ที่ความไม่สมดุล

วัตถุดิบของอาหารจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล

แต่ที่ญี่ปุ่นประเภทและสีของเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน

บางทีอาจเป็นลักษณะเฉพาะของคนญี่ปุ่นที่จะสัมผัสถึงฤดูกาลทั้งสี่ผ่านภาชนะบนโต๊ะอาหาร

อาหารสามารถแบ่งออกกว้างๆ ได้เป็นสไตล์คันโตซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่โตเกียว

และสไตล์คันไซซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่โอซาก้าและเกียวโต

แต่ก็ไม่ได้เหมารวมอาหารญี่ปุ่นทั้งหมด เพราะวิธีการปรุงและดาชิ (น้ำซุป) จะแตกต่างกัน

เราจึงได้เพลิดเพลินไปกับการฟังเชฟพูดถึงวิธีการทำปลาไหลแบบคันไซ

และวิธีการทำเทมปุระแบบคันโต

สามีของดิฉันมาจากโอซาก้าและเขาก็ชื่นชมความอร่อยของปลาไหลสไตล์คันไซมาก

เราถามเชฟ Hayakawa ที่อยู่ตรงหน้าว่าปลามาจากไหน

และรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเดินทางไปทั่วญี่ปุ่นเมื่อนึกถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบในอาหาร

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ เรายังได้รับ “Nerikiri” ที่คุณ Masako ทำเองกับมือ

เป็นของที่ระลึก และกลับบ้านอย่างอิ่มเอมใจ

ถ้าดิฉันเล่าเยอะเกินไป ทุกคนที่มาที่ร้านอาจจะหมดสนุกได้

ดิฉันจึงขอแนะนำให้ทุกคนไปทานที่ร้าน Kappo Yume

เพื่อเพลิดเพลินไปกับอาหารตาและลิ้มลองรสชาติด้วยตัวเองกันนะคะ

Dress Code ที่ Kappo Yume: สิ่งที่คุณควรสวมใส่เพื่อ Omakase ที่ยอดเยี่ยม

ไม่มีข้อกำหนดในการแต่งกาย

ใส่อะไรก็ได้ตามใจชอบ

งบประมาณสำหรับ Omakase ที่ Kappo Yume: ค่าใช้จ่ายและความคุ้มค่า

มีสองเมนูให้เลือก ได้แก่ Omakase Course (4,800 บาท++)

และ Special Omakase Course (7,200 บาท++)

ไม่มีเมนู a la carte

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (1,800 บาท++) และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (850 บาท++)

พร้อมให้บริการควบคู่กับมื้ออาหารของคุณ

นอกจากนี้ยังมีชุดสาเก (800 บาท++) เพื่อเปรียบเทียบสาเก 4 ชนิดที่แตกต่างกัน

นอกจากนี้ยังมีไวน์และสาเกที่หลากหลายอีกด้วย

จุดเด่นและจุดที่ควรปรับปรุง: รีวิวเป็นกลางของ Omakase ที่ Kappo Yume

ประโยชน์ที่ได้รับจากการรับประทาน Omakase ที่ Kappo Yume

อาหารเป็นแบบโอมากาเสะ จึงรู้สึกตื่นเต้นว่าเชฟจะเสิร์ฟอะไรบ้าง

โดยสามารถลิ้มรสส่วนผสมที่ดีที่สุดของฤดูกาลด้วยทักษะชั้นเลิศระดับมืออาชีพ

แค่มองก็เพลินตาเพลินใจ

เชฟ Hayakawa เตรียมอาหารตรงหน้าคุณเพื่อรังสรรค์อาหารจานพิเศษ

มีที่จอดรถ

มีห้องส่วนตัวให้บริการ

จุดที่ควรระวังเมื่อรับประทาน Omakase ที่ Kappo Yume

เมนูจะเปลี่ยนทุกสองเดือน เลยไม่ได้แวะมาบ่อยนัก

ราคาสูงเกินไปสำหรับการมารับประทานบ่อยๆ

ข้อมูลรายละเอียดและเคล็ดลับสำหรับการรับประทาน Omakase ที่ Kappo Yume

ที่อยู่：เลขที่ 725 ซอยสุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ ประเทศไทย