สวัสดีค่ะทุกคน
ชิฟูมิ มายด้า ผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชมบล็อก
“รีวิวจริงจากผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นะคะ
ไม่กี่วันที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ฉลองวันครบรอบแต่งงานและวันเกิดของดิฉันซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกันค่ะ
ในวันครบรอบแต่งงานเรามักจะเดินทางไปท่องเที่ยว และปีที่แล้วเราก็ไปประเทศญี่ปุ่นกัน
เนื่องจากในปีนี้เราไม่ค่อยมีเวลาเท่าไร
จึงตัดสินใจที่จะฉลองในกรุงเทพฯ
โดยเข้าพักที่โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย
ดิฉันเป็นสมาชิก IHG และมีคะแนนการเข้าพักสะสม
ซึ่งคะแนนก็ใกล้จะถึงวันหมดอายุแล้ว
ดิฉันจึงตัดสินใจใช้รางวัลการเข้าพักฟรีค่ะ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีห้องพักให้เลือกไม่มากนักสำหรับรางวัลเข้าพักฟรี
ดิฉันจึงติดต่อโรงแรมล่วงหน้าโดยตรงและขออัปเกรดเป็นห้องสวีท
ซึ่งดิฉันจะชำระเงินเอง
แต่ตอนเช็คอินมีปัญหาเกิดขึ้น ดิฉันจึงคิดว่าจะยกเลิกการเข้าพักและกลับบ้าน
แต่ผู้จัดการก็ใจดีมากและให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี
ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้เราได้พักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับการเข้าพักในครั้งนี้ค่ะ
เกี่ยวกับโรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ
ประวัติศาสตร์ของคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ:
คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ เป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์คิมป์ตัน โฮเต็ล แอนด์ เรสเตอรองท์
แบรนด์โรงแรมบูติกแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในพ.ศ. 2524
ในเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปัจจุบันคิมป์ตันมีโรงแรมมากกว่า 60 แห่ง
และร้านอาหาร บาร์ และเลานจ์มากกว่า 80 แห่ง
โดยมีแผนการขยายธุรกิจในยุโรป แคริบเบียน จีน
และสถานที่อื่นๆ ทั่วโลก
คิมป์ตันได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนิตยสาร FORTUNE
“100 บริษัทที่น่าทำงานด้วย”
และเป็นส่วนหนึ่งของ Intercontinental Hotels Group (IHG) ในเดือนมกราคม 2558
โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ มีความโดดเด่นในการเป็นโรงแรมแห่งแรก
ที่จะเปิดให้บริการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภายใต้แบรนด์ Kimpton Hotels & Restaurants
ซึ่งเปิดตัวในประเทศไทยในปี 2020
ลักษณะเฉพาะของคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ
คำว่า มาลัย อ่านว่า ‘มาลัย’
ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะแบบดั้งเดิมของประเทศไทยและหมายถึง ‘ความละเอียดอ่อน’
ความละเอียดอ่อนและความสร้างสรรค์นี้ปรากฏชัดในหัวใจของศิลปะไทย
อย่างการร้อยมาลัยดอกไม้
แต่ละพื้นที่ในคิมป์ตันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันไปจนถึงรายละเอียดที่เล็กที่สุด
เพื่อเชิญชวนให้ผู้เข้าพักได้แบ่งปันประสบการณ์พิเศษที่โรงแรมนำเสนอ
โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ล้อมรอบไปด้วยสวนลุมพินีอันเขียวชอุ่ม
ให้ความรู้สึกสดชื่นและได้เห็นวิวสวนที่ผ่อนคลาย
สอดประสานชีวิตเมืองสมัยใหม่เข้ากับธรรมชาติ
เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของบรรยากาศแบบไทยดั้งเดิมและวิถีชีวิตสมัยใหม่ของกรุงเทพฯ
บริการและสิ่งอำนวยความสะดวก
ที่โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ
ความรื่นรมณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
พร้อมให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการและความชื่นชอบของผู้เข้าพัก
ข้อเสนอเหล่านี้รวมถึง:
พื้นที่จัดงานปาร์ตี้: โรงแรมมีพื้นที่จัดปาร์ตี้ที่มีสไตล์และทันสมัย
บาร์: มีบาร์กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วโรงแรม
เป็นแหล่งรวมกาแฟ บาร์ค็อกเทล และคราฟต์เบียร์
มีที่นั่งทั้งในร่มและกลางแจ้งพร้อมวิวสวนที่สวยงาม
เป็นบาร์และร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนที่ชั้น L ของโรงแรม
ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นชิค
ในการเข้าพักครั้งนี้ เราทานอาหารค่ำวันครบรอบของดิฉันกันที่ร้านอาหารแห่งนี้ค่ะ
แสงไฟไม่สว่างหรือมืดจนเกินไป บรรยากาศสบายๆ
และแน่นอนว่าอาหารอร่อย ทำให้เราอยากกลับมาอีกครั้ง
แนวคิดของร้านอาหาร Grocerant ที่ตั้งอยู่บนชั้น 5
เป็นการผสมผสานระหว่างร้านขายของชำกับร้านอาหาร เพื่อนำเสนอความสดใหม่
และวัตถุดิบอันหลากหลายที่ส่งตรงจากสวนสู่ครัว
ครั้งหนึ่งดิฉันเคยแนะนำ Sunday Brunch ของที่ร้านนี้ไปเช่นกัน
บาร์บนดาดฟ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บนดาดฟ้าชั้นที่ 40
ทำให้มองเห็นทัศนียภาพอันน่าทึ่ง
นอกจากนี้ โรงแรมยังมีบริการสปา ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ฯลฯ
เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ
ยิ่งไปกว่านั้น คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ ยังเป็นโรงแรมที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาพักได้
จึงพร้อมต้อนรับเพื่อนขนปุยของทุกๆ คนค่ะ!
ทุกคนสามารถย้อนไปอ่าน
“สัมผัสประสบการณ์น้ำชายามบ่ายที่ดีที่สุดที่คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ:
มุมมอง 360 องศาที่ไม่มีใครเทียบได้จากชั้น 30” ได้นะคะ
ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจมากมาย
แต่เพราะห้องพักมีความสะดวกสบายและเราเข้าพักเพียงคืนเดียว
เราจึงใช้เวลาพักผ่อนภายในห้อง
ทีนี้ มาพูดถึงห้องเอ็กเซ็กคูทีฟ สวีท ซึ่งเป็นธีมหลักของการรีวิวครั้งนี้กันค่ะ
ประสบการณ์การเข้าพักที่ห้องเอ็กเซ็กคูทีฟ สวีท
ประเภทและรูปแบบของห้องพัก
คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ มีห้องพัก 362 ห้อง รวมที่พักอาศัย
โดยแบ่งออกเป็นเก้าแบบดังต่อไปนี้
ห้องเอสเซนเชียลและห้องพรีเมียมแบบสตูดิโอ
แบ่งออกเป็นห้องสวีทพร้อมห้องนอน 1 ห้องขึ้นไปและพื้นที่รับประทานอาหาร
ซึ่งในครั้งนี้ เราพักที่ห้องเอ็กเซ็กคูทีฟ สวีทค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักของเราเป็นอย่างไร?
โดยพื้นฐานแล้ว ห้องพักทุกแบบจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกัน
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องน้ำมาจาก HARNN แบรนด์สปาที่น่าภาคภูมิใจของประเทศไทย
อันที่จริง ที่เราเลือกคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ
ในครั้งนี้ก็เพราะชุดของใช้ในห้องน้ำได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อคิมป์ตัน มาลัยโดยเฉพาะ
ดิฉันแอบสงสัยว่าจะเป็นกลิ่นอะไร
ซึ่งเป็นกลิ่นที่แปลกใหม่พร้อมกลิ่นเผ็ดร้อน
ทำให้ดิฉันเพลิดเพลินไปกับการอาบน้ำอย่างมาก
เสื้อคลุมอาบน้ำได้รับการออกแบบโดย Christian Develter และมีสีสันสดใส
แม้ว่าจะเป็นศิลปินที่อยู่ในประเทศเบลเยียม
แต่ก็เคยมาจัดนิทรรศการเดี่ยวในประเทศไทย
ที่ชั้น 3 มีฟิตเนสและสระว่ายน้ำ
แต่วันที่เราเข้าพักมีคนเยอะมาก เลยไม่ได้ใช้บริการ
แต่ที่ห้องพักมีเสื่อโยคะไว้ให้
เราจึงใช้เสื่อในการออกกำลังกายแทนเพื่อให้ร่างกายสดชื่น
ห้องเอ็กเซ็กคูทีฟ สวีทที่เราพักในครั้งนี้มีเคาน์เตอร์บาร์
จึงชงกาแฟและชาได้สะดวกมาก
กาแฟเป็นยี่ห้อ Nespresso
แล้วจะไปต้องการอะไรอีกคะ
ประสบการณ์การเข้าพักที่ห้องเอ็กเซ็กคูทีฟ สวีท
ครั้งนี้เราพักที่ห้องเอ็กเซ็กคูทีฟ สวีทเพียงคืนเดียว
โดยแจ้งทางโรงแรมล่วงหน้าว่าเป็นวันครบรอบแต่งงาน…
เตียงนอนจึงได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม
ดิฉันรู้สึกว่าการต้อนรับรูปแบบนี้ในประเทศไทยเป็นสิ่งที่พิเศษมาก
ห้องพักแบ่งออกเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอน ห้องนอนจะมีประตูกั้น
เราจึงได้นอนหลับพักผ่อนในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ
ห้องที่เราพักหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
แต่ผ้าม่านปิดสนิทมากทำให้เราหลับสบายจนแทบไม่ได้สังเกตเลยว่าพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว
ความเขียวขจีที่แผ่กว้างเบื้องล่างทำให้เรารู้สึกสดชื่น
ซึ่งอาจเป็นเพราะเราเห็นแต่อาคารต่างๆ จนชินตา
ทั่วทั้งห้องตกแต่งแบบทันสมัยและใช้งานได้หลากหลาย
สีสันสวยงามสบายตา
เพดานสูงและหน้าต่างบานใหญ่ช่วยให้รู้สึกปลอดโปร่ง
ระหว่างที่เราเข้าพัก ดิฉันใช้โต๊ะอาหารเพื่อเข้าร่วมการประชุมออนไลน์และทำงานเขียน
ดิฉันมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่โต๊ะตัวนี้ ซึ่งถือว่าสะดวกดีทีเดียว
ดิฉันว่าห้องเอ็กเซ็กคูทีฟ สวีทค่อนข้างกว้างแล้ว
แต่ห้องน้ำยิ่งกว้างขวางหรูหราขึ้นไปอีก
ห้องดูสว่างด้วยแสงธรรมชาติและธีมสีขาว
กระจกบานใหญ่ตรงหน้าต่างทอดยาวไปจนถึงเพดาน
พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวางกินพื้นที่ขนาดใหญ่
และมีพื้นที่เก็บของเพียงพอ จึงไม่มีปัญหา แม้จะเข้าพักระยะยาว
ฝักบัวมีทั้งฝักบัวเพดานและฝักบัวแบบถืออาบ จึงไม่มีปัญหาเรื่องปริมาณน้ำ
อ่างอาบน้ำกว้างและลึกดี น้ำร้อนก็ไหลดีจนเต็มอ่างอย่างรวดเร็ว
อ่างล้างหน้าคู่ก็สะดวกมากเช่นกันค่ะ
ดูจากภาพอาจอธิบายได้ยาก
แต่ประตูเป็นกระจกที่คุณสามารถส่องกระจกแบบเต็มตัวได้
จึงใช้ประโยชน์ได้เหมือนกระจกเงาแบบเต็มตัว
ดิฉันปูเสื่อโยคะตรงนี้เพื่อตรวจดูท่าโยคะที่ฝึกมา
แม้ว่ากระจกจะไม่ได้มีไว้เพื่อใช้งานแบบนี้
แต่การมีกระจกที่ส่องได้ทั้งตัวเป็นสิ่งที่ดีมากเลยค่ะ
เนื่องจากห้องนี้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายและใช้สีแบบเรียบหรู
เราจึงสามารถใช้เวลาผ่อนคลายอยู่ภายในห้องได้
ดิฉันคิดว่าที่นี่เป็นห้องพักที่คุณจะไม่รู้สึกเบื่อเลยแม้จะต้องอยู่แต่ในห้องเป็นเวลานานก็ตาม
เราสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเพียงไม่กี่กิโลเมตร
และเราสามารถใช้เวลาวันครบรอบที่แสนวิเศษได้
ข้อดีและข้อด้อยของคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ
ข้อดีของคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ
ข้อด้อยของคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ
ข้อมูลของคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ
ที่อยู่:78 ซอยต้นสน ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
กรุณาแสดงความคิดเห็นหากคุณชอบบทความนี้