[รีวิวโรงแรม] แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (Mandarin Oriental Bangkok)

สวัสดีค่ะทุกคน

ชิฟูมิ มายด้า ผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชมบล็อก

“รีวิวจริงจากผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นะคะ

สถานที่ที่ดิฉันจะแนะนำในวันนี้ก็คือ

โรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (Mandarin Oriental Bangkok)

ที่ได้ชื่อว่าเป็น Hotel of the Hotel

และเมื่อพูดถึง “โรงแรม” ในประเทศไทยแล้วคงจะนึกถึงเป็นชื่อแรกๆ เลยค่ะ

[รีวิวที่พัก] โรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ

เมื่อก่อนประเทศญี่ปุ่นเคยมีงานเขียนที่ชื่อว่า “SAYONARAITSUKA”  

ที่ใช้โรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ มาเป็นฉากในเรื่อง

และติดอันดับหนังสือขายดี (Best Seller) ด้วยค่ะ

แถมงานเขียนเรื่องนี้ยังถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์ในภายหลังอีกด้วย

เพราะอย่างงั้นหลายคนคงอาจจินตนาการถึงบรรยากาศของโรงแรมนี้ได้ แม้จะไม่เคยไปเข้าพักจริงๆ ก็ตาม

ตัวดิฉันเองก็เป็นหนึ่งในคนที่อยากจะลองสัมผัสบรรยากาศนี้ดูซักครั้ง เลยลองพาตัวเองมายังสถานที่แห่งนี้

ซึ่งโดยปกติแล้วดิฉันชอบมากินข้าวที่ร้านอาหารของโรงแรมนี้อยู่บ่อยๆ

ปี 2564 นี้เป็นอีกครั้งที่ดิฉันมาเข้าพักที่โรงแรมนี้ในรอบ 15 ปี

และมันก็ยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า “โรงแรม Mandarin Oriental Bangkok นี่แหละที่เป็นโรงแรมชั้นหนึ่ง”

เมื่อรู้สึกได้แบบนี้จึงอยากจะนำมาแชร์กับทุกคนเลยเขียนขึ้นมาเป็นบล็อกในครั้งนี้ค่ะ

ในประเทศญี่ปุ่นเองก็นับว่าเป็นโรงแรมที่แนะนำต่อๆ กันว่า

ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวประเทศไทยแล้วก็ควรจะลองมาเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ดูซักครั้งนะคะ

รีวิวห้อง Chaopraya Suite

เมื่อวันก่อน ดิฉันใช้ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ไปเข้าพักที่ห้อง Chaopraya Suite ของโรงแรมนี้เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน

พอเดินพ้นโถงทางเดินแคบๆ ออกมา ก็จะเจอกับแจกันดอกไม้ที่วางประดับไว้อย่างสวยงามให้ได้ชมกันในระหว่างเดินไปที่ห้อง

ห้อง Chaopraya Suite จะแบ่งออกเป็นโซนห้องนั่งเล่นกว้างๆ กับโซนกินข้าว ส่วนห้องนอนจะอยู่ชั้น 2 ค่ะ

ห้อง Chaopraya Suite ที่ดิฉันไปเข้าพักในครั้งนี้จะอยู่ที่อาคารเก่า Garden Wing

ห้อง Chaopraya Suite ที่เข้าพักในครั้งนี้อยู่ที่อาคารเก่า

ชั้นบนสุดมีร้านอาหารฝรั่งเศสที่ได้รับรางวัลมิชลิน 2 ดาว มีชื่อร้านว่า Le Normandie อยู่ด้วย

อาคาร Garden Wing จะมีแขกมาเข้าพักค่อนข้างน้อย

ถือว่าเป็นบรรยากาศที่วิเศษมากสำหรับตัวดิฉันที่ชอบบรรยากาศเงียบสงบแบบนี้ค่ะ

เพดานห้องอยู่สูงมาก และมีหน้าต่างบานใหญ่เชื่อมระหว่างพื้นไปจนถึงเพดาน

เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็จะมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยากำลังไหลช้าๆ ดูสบายตาเอามากๆ

อุตส่าห์ได้มาพักในห้องที่ทั้งกว้างและเงียบขนาดนี้  ก็เลยลองสั่งอาหารเย็นแบบ Room Service ดูค่ะ

วันนี้เป็นชุดอาหารไทยค่ะ

ถึงจะบอกว่าเป็น Room Service แต่มีการวางผ้าปูโต๊ะให้อย่างสวยงาม

แถมยังจัดโต๊ะได้เหมือนกับกำลังกินข้าวอยู่ในร้านอาหารเลยค่ะ

ดิฉันเคยไปเข้าพักโรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพฯ มาหลายที่

แต่บริการ Room Service จะค่อนข้างเรียบง่าย

และไม่ค่อยมีที่ไหนวางผ้าปูโต๊ะและจัดวางอาหารให้แบบนี้เลย

สำหรับดิฉันนี่คงเป็นอีกหนึ่งเหตุผล

ที่ทำให้โรงแรม Mandarin Oriental Bangkok ได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งด้วยแหละมั้งคะ

แม้แต่การทำความสะอาดเองก็ยังทั่วถึงทุกซอกทุกมุมทั้งในห้องนอนและห้องน้ำ

รู้สึกได้ถึงความใส่ใจของพนักงานจริงๆ

ในตัวเมืองกรุงเทพฯ ที่แสนวุ่นวานนี้ นับเป็นช่วงเวลาที่แสนวิเศษที่ได้ผ่อนคลายในอ่างอาบน้ำ

ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบพร้อมกลิ่นหอมตะไคร้ซึ่งเป็นสมุนไพรอ่อนๆ

คู่สามีภรรยาอย่างพวกเราใช้เวลาเกือบวันอยู่แต่ในห้อง ผ่อนคลายด้วยการอ่านหนังสือไม่ก็ดื่มชา

เมื่อเข้ารับบริการอะไรซักอย่าง ดิฉันมักจะเผลอมองในมุมมองที่ว่า

“ถ้าดิฉันได้เป็นผู้บริหารของที่นี่ ดิฉันจะทำอย่างไร”

ดิฉันรู้สึกได้ว่าสิ่งที่ทำให้โรงแรม Mandarin Oriental Bangkok มีความวิเศษ

คือพนักงานทุกคนมีความรับผิดชอบในการทำงาน คำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้มาใช้บริการหรือมาพักที่โรงแรมนี้

และคอยคิดอยู่เสมอว่า “บริการที่ดีที่สุดคืออะไร?”

สิ่งเหล่านี้ไม่ได้นำมาใช้ได้แค่กับงานบริการอย่างโรงแรมเพียงอย่างเดียว

แต่สามารถนำไปใช้กับงานประเภทอื่นได้เช่นกัน

เพราะได้มาพักด้วยตัวเองจริงๆ เลยเข้าใจบรรยากาศแบบนี้ได้ค่ะ

หากมีโอกาสมาพักที่โรงแรมในกรุงเทพฯ อาจจะมีที่พักอื่นที่ราคาถูกและดูน่าสนใจกว่านี้

แต่อยากให้ทุกคนลองพักที่โรงแรมชั้นหนึ่งดูซักครั้งค่ะ

ถ้าเป็นไปได้ดิฉันอยากให้มาลองเข้าพักที่โรงแรม 5 ดาวอย่าง Mandarin Oriental Bangkok ดูอีกซักครั้ง

ดิฉันเชื่อว่าทุกคนจะเข้าพักที่โรงแรมนี้พร้อมได้ประสบการณ์ที่มีค่ามากกว่าเงินแน่นอนค่ะ

มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราสามารถเข้าใจได้ หากได้ลองสัมผัสมันด้วยตัวเอง

และที่นี่ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่หากไม่ลองมาเข้าพักด้วยตัวเองก็จะไม่เข้าใจค่ะ

จุดเด่นของโรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ

สัมผัสได้ถึงบริการที่สมกับตำแหน่ง “Hotel of the Hotel” ได้ด้วยตัวเอง

ได้รับบริการที่แสนวิเศษ

การทำความสะอาดที่ทั่วถึงทั้งภายในห้องและภายในโรงแรม

สัมผัสได้ถึงบรรยากาศของโรงแรมชั้นหนึ่ง

รีวิวนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ

รายละเอียดโรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ

ที่อยู่: 48 Oriental Ave, Khwaeng Bang Rak, Bang Rak, Bangkok 10500