สวัสดีค่ะทุกคน
ชิฟูมิ มายด้า ผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชมบล็อก
“รีวิวจริงจากผู้บริหารสาวคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นะคะ
รีวิววันนี้เป็น Kashikiri Onsen & Spa ค่ะ
ตัวร้านจะตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 49.
คำว่า “Kashikiri” ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “ส่วนตัว”
ที่นี่เราสามารถเพลิดเพลินไปกับการแช่อ่างน้ำแบบส่วนตัวสุดๆ ได้ด้วย
คราวก่อนดิฉันเคยเขียนรีวิว Onsen ในกรุงเทพฯ
“(รีวิว) 3 ออนเซ็นดังในกรุงเทพฯ ที่คนญี่ปุ่นเลือกแล้วว่าดี!” ไปแล้ว
อ่านได้จากที่นี่เลยค่ะ
ที่นี่เหมาะสำหรับคนอยากแช่น้ำ แต่ไม่ชอบคนเยอะๆ
รู้สึกเขิน หรืออยากแช่น้ำแบบไม่ต้องเกรงใจคนรอบข้าง
แม้แต่คนที่ไม่เคยไปออนเซ็นมาก่อน
ถ้ามาที่ Kashikiri Onsen & Spa ก็หมดห่วง สบายใจได้เลยค่ะเพราะทุกอย่างเป็นส่วนตัวมากจริงๆ
รอบนี้ดิฉันจองแพ็คเกจคู่รักแบบ K3 Course รวม Private Onsen 45 นาทีและ Aroma Massage 60 นาที
ในราคา 3,990 บาทค่ะ
มาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่าค่ะ
(รีวิว) Kashikiri Onsen & Spa
Kashikiri Onsen & Spa ที่ถ่ายทอดความเป็นเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Kashikiri Onsen & Spa จะตั้งแอบอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย ไม่เป็นที่สะดุดตา
แต่พอได้เข้าไปแล้วกลับรู้สึกทึ่งมาก
ตัวร้านสร้างขึ้นมาตามแบบออนเซ็นและเรียวกังจากญี่ปุ่นแท้ๆ
ให้กลิ่นอายแบบ “ญี่ปุ่น” ที่หากมองจากภายนอกอย่างเดียวแล้วจะไม่สามารถจินตนาการได้เลย
ข้างๆ กันมีโรงแรมชื่อ “MAYU Japanese style hotel” อยู่ด้วย
เป็นโรงแรมที่สัมผัสได้เลยว่าเจ้าของต้องชอบในประเทศญี่ปุ่นมากแน่ๆ ค่ะ
บรรยากาศเหมือนได้กลับไปเดินอยู่ที่ญี่ปุ่นเลย
ผสมผสานความเป็นประเทศทางตอนใต้อย่างไทยและญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
ดิฉันเองที่เป็นคนญี่ปุ่นเห็นแล้วก็รู้สึกสงบใจมากค่ะ
ด้านในโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ ผสมผสานกับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เห็นแล้วก็รู้สึกอบอุ่นใจไปด้วย
ดิฉันมาวันเสาร์พอดี ก็จะมีทั้งลูกค้าที่มาคนเดียว มาเป็นคู่ มาเป็นครอบครัวแตกต่างกันไป
มีเวลคัมดริ้งเป็นชามาเสิร์ฟให้ดื่มรอไปพลางๆ ด้วยค่ะ
รีวิวห้องอาบน้ำ
ก่อนเข้าไปในห้องอาบน้ำ จะต้องเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชาย-หญิงก่อน
ส่วนของที่นำเข้าไปในโซนอาบน้ำไม่ได้ก็จะเก็บไว้ในตู้ล็อกเกอร์
ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเตรียมไว้ให้ดังนี้ค่ะ
ทางร้านไม่มีคลีนซิ่งสำหรับลบเครื่องสำอาง โลชั่น ครีมเตรียมไว้ให้ ต้องนำมาเองค่ะ
พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็จะมานั่งรอที่ล็อบบี้
รอบนี้เราจองเป็นคอร์ส Private Onsen แล้วตามด้วยนวดอโรม่า
แต่สามารถเลือกเกลือสำหรับอาบน้ำและน้ำมันอโรม่าได้ตั้งแต่แรกเลยค่ะ
เกลือในวันนั้นจะมีให้เลือก 2 แบบคือ “Noboribetsu” กับ “Beppu” ดิฉันเลือกเป็น Beppu ค่ะ
จากนั้นจะได้เลือกน้ำมันอโรม่าจากทั้งหมด 6 ชนิด
ซึ่งรอบนี้ดิฉันเลือกเป็นน้ำมันยูคาลิปตัสค่ะ
นั่งรอไม่นานพนักงานก็มาแจ้งว่าออนเซ็นพร้อมแล้ว เลยเดินไปที่โซนออนเซ็นค่ะ
มีสวนสวยๆ ให้ชมระหว่างเดินไปออนเซ็นส่วนตัวด้วยนะคะ
ออนเซ็นแบบส่วนตัวจะมี 2 แบบ
แบ่งเป็น Type A คือ 2 คนในอ่างขนาดใหญ่เพียงอ่างเดียว
กับ Type B เป็นอ่างแยกของใครของมัน
ซึ่งรอบนี้พวกเราเลือกเป็น Type A คือสองคนอาบรวมในอ่างใหญ่อ่างเดียวค่ะ
เป็นอ่างไม้ที่มีความกว้างและลึกกำลังดีตามสไตล์ “อ่างน้ำญี่ปุ่น” เลยค่ะ
พอเป็นการแช่น้ำร้อนในอ่างไม้แล้วรู้สึกนุ่มนวลกว่าการอาบในอ่างปกติอย่างบอกไม่ถูก
ตอนอยู่บ้านดิฉันก็อาบน้ำในอ่างเหมือนกัน แต่อ่างตื้นจนแม้จะนอนแช่ลงไป
ช่วงไหล่ก็ยังโผล่พ้นน้ำขึ้นมาอยู่ดี
ปกติในไทยคงไม่ค่อยแช่น้ำร้อนกันจนถึงคอ
แถมอุณหภูมิน้ำก็ค่อนข้างจะร้อนไปหน่อยด้วยค่ะ…
ปกติคนญี่ปุ่นจะแช่น้ำร้อนกันที่อุณหภูมิ 40-43 องศา
ด้วยความที่ปกติไม่แช่น้ำร้อนจัดขนาดนี้ เลยรู้สึกว่าอุณหภูมิเท่านี้มันร้อนเกินจะทนได้ไปหน่อย
แต่สามารถเติมน้ำเข้าไปเพิ่มได้ เลยสามารถปรับอุณหภูมิของน้ำได้ตามใจชอบเลยค่ะ
ภายในออนเซ็นส่วนตัวจะมีผ้าเย็นกับน้ำดื่มเตรียมไว้ให้ด้วย
แช่น้ำพร้อมวางผ้าขนหนูเย็นๆ ไว้บนหัว ช่วยให้ผ่อนคลายได้มากจริงๆ
สบู่ แชมพู ครีมนวดผม ทุกอย่างมีเตรียมไว้ให้พร้อมหมดแล้ว
ส่วนพวกคลีนซิ่งสำหรับลบเครื่องสำอางไม่มีวางไว้ให้ แนะนำให้พกมากันด้วยนะคะ
รอบนี้จองไว้แค่ 45 นาที แต่ถ้านานกว่านี้เป็น 60 นาทีก็โอเคเหมือนกัน
ได้แช่น้ำร้อนสูงถึงหัวไหล่ เหยียดขาออกไปได้แบบกำลังดี เป็นการผ่อนคลายที่ดีมากจริงๆ ค่ะ
รีวิวการนวด
ลงไปแช่ในอ่าง เพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อเสร็จก็ไปนวดกันต่อเลยค่ะ
ห้องนวดจะอยู่บนชั้น 2
รอบนี้ดิฉันนวดในห้องเดียวกับสามีเลยค่ะ
เตียงนวดนุ่มๆ ทำให้รู้สึกดีมากๆ ทั้งความยาวความกว้างของเตียงก็กำลังพอดี
พนักงานจะนำน้ำมันอโรม่าที่เลือกไว้ก่อนหน้านี้ไปอุ่นให้ด้วย
ปกติดิฉันจะนวดครั้งละประมาณ 90-120 นาที
แต่รอบนี้มีแช่ออนเซ็นด้วยเลยลดลงเหลือแค่ 60 นาทีค่ะ
เพราะแค่ลงแช่ออนเซ็นก็คลายความเหนื่อยล้าไปได้เยอะแล้ว
ถ้าแช่ออนเซ็นแล้วมานวดต่ออีก 90 นาทีดิฉันมองว่ามันจะนานเกินไปหน่อย ร่างกายอาจจะไม่ไหวได้
เลยลดลงมาเหลือแค่ 60 นาทีค่ะ
ตอนที่น้ำมันยูคาลิปตัสอุ่นๆ กระทบกับผิว จากที่รู้สึกผ่อนคลายมากอยู่แล้วกับยิ่งทวีคูณไปอีกจนหลับไปเลย
แต่ก็ตื่นขึ้นมากลางคันเพราะการกรนของตัวเองนี่ล่ะค่ะ
แต่สุดท้ายก็หลับสนิทจนนวดเสร็จเลย
ออนเซ็นแบบส่วนตัวช่วยให้ผ่อนคลายได้มากทั้งกายและใจเลยจริงๆ
หลังจากผ่านช่วงเวลาที่เหมือนฝัน 2 ชั่วโมงครึ่งนี้ไป ก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี
ดิฉันเลยแวะไปกินไก่ย่างที่ร้าน Another Kelly’s ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ด้วยค่ะ
จบทริปวันนี้ด้วยไก่ย่างอร่อยๆ อิ่มท้องแล้วยังอิ่มกายอิ่มใจด้วย นับเป็นวันที่พิเศษสุดๆ ไปเลย
ก่อนกลับทางร้านมีเสิร์ฟชาเขียว เค้กชาเขียว
และแตงโมให้ทานรองท้องก่อนไปร้านอาหารด้วยนะคะ
ดิฉันพอใจกับบริการของที่นี่มาก เร็วๆ นี้ก็ว่าจะกลับมาใช้บริการอีกรอบค่ะ
ข้อดีและข้อเสียของKashikiri Onsen & Spa
ข้อดี
ข้อเสีย
ราคา
ทางร้านจัดโปรโมชั่นบ่อย แนะนำให้ติดต่อผ่านทาง LINE หรือ Facebook ค่ะ
Facebook:https://www.facebook.com/onsen49
Line : @kashikiri49
รายละเอียดของKashikiri Onsen & Spa
ที่อยู่:84 Sukhumvit 49 Bangkok Thailand 10110
เปิดทุกวัน 10:00 – 21:00
Homepage:www.kashikirionsenandspa.com
Facebook:https://www.facebook.com/onsen49
Line : @kashikiri49
Tel: 081-268-4624, 02-258-7902
ที่จอดรถ:มี
หากใส่โค้ดด้านล่างนี้จะได้รับส่วนลด 100 บาทด้วยนะคะ
↓
kobyikav-4111080
กรุณาแสดงความคิดเห็นหากคุณชอบบทความนี้